วันนี้ (7 ต.ค.2564) จากกรณีศาลาการเปรียญ วัดใหญ่สุวรรณาราม จ.เพชรบุรี ชำรุด เสาจำนวน 16 ต้น แช่อยู่ในน้ำท่วม จนหลายคนกังวลว่าอาจสร้างความเสียหายให้กับอาคารเก่าอายุนับร้อยปี
พระครูวัชรสุวรรณาทร เจ้าอาวาสวัดใหญ่สุวรรณาราม กล่าวว่า การซ่อมแซมศาลาการเปรียญที่เกิดปัญหาดังกล่าว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบแล้ว ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด สำนักศิลปากรที่ 1 กรมศิลปากร และช่างศิลป์ท้องถิ่น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการวางแผนเพื่อซ่อมแซมบูรณะเนื่องจาก เสาไม้นั้นชำรุดมาเป็นระยะเวลานานและที่ผ่านมาได้มีการซ่อมแซมมาอย่างต่อเนื่อง
เสาทุกต้นมีรอยร้าว บางส่วนร้าวมานาน บางส่วนร้าวเพิ่ม นั่นก็เพราะความเก่าแก่ของไม้ที่มีอายุกว่า 300 ปี เสาบางส่วนได้เสริมฐานคอนกรีตเพื่อเพิ่มความมั่นคงแล้ว กรณีที่ทรุดนั้นอาจเพราะเสาบางส่วนที่ยังไม่ได้ดำเนินการจึงทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ไม่เท่ากันและทรุด ซึ่งขณะนี้วางแผนในการซ่อมแซมอยู่
เจ้าอาวาสวัดใหญ่สุวรรณาราม กล่าวว่า ขณะนี้ได้วางแผนซ่อมโดยเสริมฐานเสาทุกต้นด้วยคอนกรีตเพื่อให้มีความสูงเท่ากันโดยจะดำเนินการครั้งละ 2 ต้น จนครบทั้งหมด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเขียนและออกแบบการบูรณะ และขอการจัดสรรงบประมาณซึ่งในงบประมาณปี 2566 เนื่องจากงบประมาณในปี 2565 ไม่ทันแล้ว
FB : เรื่องเล่าของรอยใบลาน
ในช่วงสถานการณ์น้ำท่วมได้พยายามระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อพื้นที่เขตเทศบาลภายนอกวัดได้มีการระบายน้ำจนพอสมควร ทางวัดก็จะสูบน้ำออกเพื่อระบายน้ำ ซึ่งดำเนินการเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง
กรมศิลป์ตรวจศาลาการเปรียญ เสาไม้แตก
นางศาริสา จินดาวงษ์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 1 ราชบุรี กล่าวว่า ศาลาการเปรียญ วัดใหญ่สุวรรณาราม ได้รับการบูรณะซ่อมแซมมาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยสภาพเก่าแก่ มีน้ำท่วมขังช่วงฤดูฝน มีการใช้เสาไม้ในการก่อสร้าง และรับน้ำหนักตัวอาคาร ไม่ได้มีการตอกเสาเข็มเทพื้นคอนกรีตในระบบฐานราก
รวมถึงการบูรณะกระเบื้องมุงหลังคา ที่มีการดาดปูนตำ เพื่อป้องกันการรั่วซึมของน้ำฝน ทำให้ตัวหลังคามีน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับเนื้อเสาไม้ไม่มียางไม้ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ช่วยให้เสาคงอยู่ในสภาพเดิมจึงเกิดรอยปริแตก
การบูรณะครั้งก่อนไม่ได้มีการทำเรื่องฐานราก บูรณะแค่ตัวอาคาร ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่า ไม่ได้มีปัญหาทุกต้น ในการบูรณะครั้งก่อนเลยมีการซ่อมแซมเฉพาะบางต้นเท่านั้น
ทางสำนักศิลปากรที่ 1 ราชบุรี จะดำเนินการแก้ไขเบื้องต้นโดยการนำแผ่นเหล็กทำเป็นวงแหวนรัดในส่วนที่ปริแตกของเสาไม้ก่อน ป้องกันการแตกร้าวเพิ่มขึ้น พร้อมนำอุปกรณ์ค้ำยันทำการหนุนประคองเสาที่รับน้ำหนักเพื่อป้องกันการทรุดตัว
เรากำลังเร่งทำเอกสารของบฉุกเฉินจากกรมศิลปากรประมาณ 2 แสนบาท เพื่อนำมาบูรณะแบบเร่งด่วนก่อน และค่อยทำงบฯ เพื่อขอบูรณะครั้งใหญ่
สำหรับการบูรณะครั้งใหญ่ จะต้องประสานสำนักสถาปัตยกรรม สำนักวิศวกรรม เพื่อมาออกแบบ สำรวจและจัดทำแผนโครงการที่จะบูรณะซ่อมแซมโครงสร้างและเสา โดยจะปรับปรุงบูรณะระบบฐานรากศาลาทั้งหมด โดยกรมศิลปากรจะดำเนินการจัดทำรูปแบบรายการและประเมินราคาซ่อมแซม เพื่อให้ทันกับงบประมาณในปี 2566
ยังไม่ถึงขั้นทำให้ตัวอาคารถล่ม เนื่องจากเสาบางต้นยังรับน้ำหนักได้ แต่เรื่องการแตกปริ เป็นไปตามสภาพเนื้อไม้ และยังมีน้ำใต้ดินที่เข้ามาดัน
ด้าน นายณัฐพล ระดาฤทธิ์ ผู้อำนวยการกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ 1 ราชบุรี กล่าวว่า สำหรับการเสริมความมั่นคงให้กับเสาทุกต้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการปริแตกไปกว่านี้ ใช้วิธีการรัดรอบเสาด้วยเหล็ก หรือ สแตนเลส ในส่วนของเสาที่แตก
ส่วนต้นที่ไม่แตกร้าว ทางวิศวกร กรมศิลปากร จะทำฐานรากเป็นตอม่อรองทุกต้นเพื่อช่วยรับน้ำหนัก ทำให้การทรุดตัวน้อยลง เพราะตอนนี้บางต้นเสาก็จะปักอยู่ในดิน ไม่ได้มีฐานรากอะไรรองรับ พอมีน้ำท่วมหรือฝนตกหนัก และน้ำใต้ดินดันเข้ามา ทำให้ทรายหรือตัวดินที่รองเสา มันเกิดการบวมตัวหรือสไลด์ออก ทำให้เสาแต่ละต้นทรุดตัวไม่เท่ากัน
FB : เรื่องเล่าของรอยใบลาน
ในส่วนของการทำฐานราก ยังไม่ได้มีการดำเนินการทั้งหมด ที่ผ่านมาทำได้เพียงต้นเดียวเท่านั้น ซึ่งในกระบวนการนี้มีขั้นตอน และต้องใช้งบประมาณมาก และจะต้องใช้วิศวกรในการออกแบบค้ำยัน รวมไปถึงเทคนิคทางด้านวิศวกรรม เป็นปัญหาที่ต้องใช้ระยะเวลาในการแก้ไข
สำหรับตัวอาคารเป็นไม้สิ่งที่น่ากังวลคือ การทรุดตัวโดยหลังจากนี้จะมีการนำทีมช่างเข้ามาสำรวจอีกครั้ง ทั้งเช็กค่าระดับ แต่ละจุดมีการทรุดตัว แค่ไหน
นายณัฐพล กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้หนักกว่าครั้งก่อนเพราะเสาแตกร้าวแสดงให้เห็นว่า ฐานเสามีปัญหาแล้ว ซึ่งจะต้องเร่งนำทีมวิศวกรเข้ามาตรวจสอบโดยเร่งด่วน เพราะหากปล่อยไว้หากมีฝนตกหนัก อาจมีการแตกเพิ่ม
วัดเก่าเมืองเพชร อายุ 300 ปี
วัดใหญ่สุวรรณาราม หรือ วัดน้อยปักษ์ใต้ หรือที่ ชาวเพชรบุรี เรียกว่า "วัดใหญ่" ตั้งอยู่ที่ ต.ท่าราบ อ.เมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี มีเนื้อที่ประมาณ 21 ไร่ ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.2240 ปัจจุบันอายุราว 324 ปี เป็นอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร เป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา
ตามหลักฐานที่ค้นพบกล่าวว่า สมเด็จพระสังฆราชแตงโม (ทอง) ได้เคยเป็นเด็กวัดอยู่ที่วัดใหญ่สุวรรณาราม ต่อมาได้บรรพชาเป็นสามเณรและอุปสมบทเป็นพระภิกษุได้จำพรรษาอยู่ที่กรุงศรีอยุธยา เป็นพระอาจารย์สอนพระบรมวงศานุวงษ์ สมเด็จพระสังฆราชแตงโมได้บูรณะวัดใหญ่ ก่อสร้างพระอุโบสถและศาลาการเปรียญ
FB : เรื่องเล่าของรอยใบลาน
เมื่อ พ.ศ.2308 เมียนมาได้ทำลายพระอุโบสถจนเสียหาย จึงได้บูรณะขึ้นใหม่ พระครูมหาวิหาราภักษ์และขุนศรีวังยศได้สร้างพระระเบียงล้อมพระอุโบสถ เรียกระเบียงคด และได้บูรณะเสนาสนะ
ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน วัดใหญ่สุวรรณารามเป็นแหล่งความรู้ทางด้านสถาปัตยกรรม ปฏิมากรรมและจิตรกรรม วัดได้รับการพัฒนาและบูรณะมาโดยตลอด