ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ดูซีรีส์เป็นอาชีพ : IDOL : The Coup ตีแผ่อีกมุม K-POP กับ "ไอดอล" ผู้ล้มเหลว?

Logo Thai PBS
ดูซีรีส์เป็นอาชีพ : IDOL : The Coup ตีแผ่อีกมุม K-POP กับ "ไอดอล" ผู้ล้มเหลว?
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ในยุคเลือดเย็นที่ผู้ชนะกอบโกยทุกอย่าง พวกเราอดทนกับทั้งหมดนั้นด้วยทุกอย่างที่เรามี ในยุคที่ความเจ็บปวดของบางคนกลายเป็นเนื้อหาเพื่อความบันเทิงในยุคที่ความพยายามถูกเยาะเย้ย ผู้คนจดจำแต่ผู้ชนะ ฉันคือไอดอลผู้ล้มเหลว 

ซีรีส์น้ำดี "IDOL : The Coup" จาก JTBC ได้รับเสียงชื่นชมจากคอซีรีส์และเหล่าแฟนคลับไอดอลอย่างมาก ด้วยการเล่าเรื่องราวชีวิตอีกมุมของไอดอลที่ถูกตีตราว่าเป็นผู้ล้มเหลวอย่างวง "Cotton Candy" 1 ในเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีที่เดบิวต์ด้วยความสดใสแต่สุดท้ายกลับต้องกล้ำกลืนกับความล้มเหลวเมื่อกลายเป็นไอดอลที่ไม่ประสบความสำเร็จแม้จะเดบิวต์มานาน 6 ปี จนทำให้ค่ายเลือกที่จะเทเพื่อไปดันวงน้องใหม่ ขณะที่หัวหน้าวง อันฮียอน ซึ่งรับบทโดยฮานิ วง EXID ทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ทุกคนลืมชื่อวง "Cotton Candy" ของเธอไป

บริษัทเราเขี่ยทิ้งเพราะไม่รุ่ง แต่กลับถูกสัญญาพร้อมค่าปรับมหาศาลรั้งเอาไว้ไม่ให้เดินหน้าไปต่อ การไม่ถูกลืมจะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อไม่มีใครฟังเพลงเราแล้ว 
ภาพ : IQIYI

ภาพ : IQIYI

ภาพ : IQIYI


ความท้อแท้ของเมมเบอร์ในวงสะท้อนผ่านบทสนทนา แต่ชีวิตจริงยิ่งกว่าละครอีกมาก ซีรีส์ "IDOL : The Coup" ได้รับความสนใจตั้งแต่มีการเปิดเผยเรื่องย่อพร้อมรายชื่อนักแสดง โดยเฉพาะนักแสดงนำอย่าง ฮานิ EXID ที่ราวกับว่าซีรีส์นี้หยิบยกเรื่องราวชีวิตของเธอมาเล่าหรือไม่

FANCAM เปลี่ยนชีวิตจากนูกูสู่นักร้องดัง

หลายคนอาจจะเพิ่งรู้จักวง EXID หลังภาพความสำเร็จจาก Up&Down ทั้งที่วงนี้เดบิวต์มาตั้งแต่ปี 2012 และมีการปรับเปลี่ยนสมาชิกวง รวมถึงออกซับยูนิตมาตลอดแต่ก็ยังวงนูกู หรือวงซึ่งไม่เป็นที่รู้จัก EXID กลับมาอีกครั้งในปี 2014 ด้วยเพลง Up&Down แต่ผลตอบรับกลับไม่เป็นไปตามที่หวัง เมื่อเพลงนี้ไม่สามารถติด 100 อันดับแรกในชาร์ต Gaon ได้

เมื่อถึงวันที่ต้องตัดสินใจว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ กลับมีวิดีโอ FANCAM ของฮานิปล่อยออกมาบนยูทูบและกลายเป็นไวรัลจนทำให้คนทั่วโลกรู้จักเธอและวง EXID เรียกได้ว่าเป็นวินาทีเปลี่ยนชีวิตก็ว่าได้

EXID กลับมาได้รับความนิยมอย่างท่วมท้น เมมเบอร์ในวงได้ไปออกรายการมากมาย ฮานิเองก็มีงานอย่างต่อเนื่องทั้งงานเพลง วาไรตี้ไปจนถึงการแสดงละคร เมื่อเดบิวต์แล้วการสร้างความนิยมให้เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องง่ายท่ามกลางคู่แข่งบนสังเวียนไอดอล 

ค่ายใหญ่-เซอร์ไววัล กับไอดอลที่ประสบความสำเร็จ

แต่ละปีมีวงไอดอลเตรียมเดบิวต์เฉลี่ย 300 วง แต่มีเพียง 50 วงเท่านั้นที่ได้เดบิวต์จริง ๆ และโดยทั่วไปมีเพียง 1-2 วงที่ได้รับการยอมรับอย่างจริงจังตั้งแต่ปีแรกที่เดบิวต์ 

ข้อมูลจาก Never ระบุว่า แหล่งข่าวจำนวนมากยอมรับว่า มีเพียง 2 วิธีในการรับประกันความสำเร็จสำหรับไอดอลที่เพิ่งเดบิวต์ วิธีแรกคือ ต้องเป็นวงไอดอลที่มาจากบิ๊ก 3 อย่าง SM Entertainment YG Entertainment และ JYP Entertainment ส่วนอีกวิธีคือ การอาศัยกระแสจากรายการเซอร์ไววัลอย่าง "Produce 101"

ความคาดหวังจากรายการเซอร์ไววัลทำให้ค่ายเพลงหลายแห่งตัดสินใจส่งไอดอลในสังกัดเข้าร่วมเพื่อขยายฐานแฟนคลับให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น อย่าง Nu'est บอยแบนด์จาก Pledis Entertainment ที่ได้รับความรักอย่างถล่มทลายหลังจากผ่านรายการเซอร์ไววัลนี้ และตกคนเข้าด้อม L.O.Λ.E (러브) ไปไม่น้อย 

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ Nu'est จะประสบความสำเร็จจากรายการนี้ แต่ก็นำพาบาดแผลมาให้ทั้งตัวศิลปิน และแฟนคลับไม่น้อย จากผลคะแนนโหวตที่ไม่เป็นธรรม จนนำไปสู่คดีความและมีรายงานข่าวเปิดเผยมาในภายหลังว่าหนึ่งในเมมเบอร์วงไม่ได้เดบิวต์จากความไม่โปร่งใสนี้ครั้งนี้


นอกจากนี้ "ยูจิน" วง CLC กลายเป็นไอดอลคนล่าสุดที่เลือกเส้นทางรายการเซอร์ไววัลเพื่อรักษาเวทีของตัวเองไว้ ด้วยการพิสูจน์ความสามารถผ่านรายการ Girls Planet 999 ทางช่อง Mnet พร้อมออกมายอมรับเป็นครั้งแรกผ่านรายการว่า “ทางบริษัทบอกว่าจะไม่มีกิจกรรมของวง" 

ฉันทุ่มเททั้งหมดให้กับ CLC จริง ๆ ด้วยคอนเซปต์ของเราคือสาวแกร่ง ฉันเลยรู้สึกเหมือนไม่มีตัวตนบนเวที ฉันยังอยากเป็นนักร้องต่อไป เพราะแบบนั้นฉันจึงอยากใช้รายการ Girls Planet 999 แสดงเสน่ห์ของฉัน และด้านอื่น ๆ ให้เห็น

สุดท้ายความพยายามของยูจินก็เป็นผล หลังรายการออนแอร์ทำให้มีคนพูดถึงวง CLC มากขึ้น และเปิดใจติดตามความสามารถของเธอจนได้รับการโหวตและเป็น 1 ใน 9 ผู้ชนะที่ได้เดบิวต์ในนามวง Kep1er ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าแม้ชื่อวงจะไม่ได้รับความนิยมหรือไม่เป็นที่รู้จักแต่ไอดอลทุกคนก็มีความสามารถที่แข็งแกร่งจนคว้าชัยชนะมาได้

ไอดอลไทยในสังเวียน K-POP

การขับเคี่ยวกันในวงการไอดอลเกาหลีดุเดือดอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ไอดอลชาวไทยหลายคนที่เลือกเดินตามฝันไปบนเส้นทาง K-POP ถือว่าประสบความสำเร็จระดับเวิลด์ไวล์ด้วยการผ่านด่านสุดหินจนกลายเป็นเด็กฝึกหัดในค่ายบิ๊กทรีและเดบิวต์มาด้วยเสน่ห์และความสามารถที่ล้นหลามอย่าง นิชคุณ หรเวชกุล วง 2PM แบมแบม กันต์พิมุกต์ ภูวกุล วง GOT7 จากค่าย JYP Entertainment หรือ ลิซ่า ลลิษา มโนบาล วง BLACKPINK จาก YG Entertainment และเตนล์ ชิตพล ลี้ชัยพรกุล วง WAYV-NCT จาก SM Entertainment 


ส่วนคนไทยที่ไม่ได้เดบิวต์ในค่ายบิ๊กทรีอย่าง มิ้นท์-กุญช์ภัสส์ พรปวีณ์วรกุล วง TINY-G ก็ได้กลับมาเปิดค่ายเพลงในไทยหลังยุบวงไปเมื่อปี 2010 ขณะที่ สร-ชลนสร สัจจกุล ก็เพิ่งมีข่าวยืนยันยุติสัญญาเป็นไอดอลภายใต้สังกัด CUBE Entertainment และเป็นการสิ้นสุดเส้นทางไอดอลในนามวง CLC เช่นกัน

สำหรับ มินนี่ ณิชา ยนตรรักษ์ วง (G)I-DLE อีกหนึ่งสาวในค่าย CUBE Entertainment ขณะนี้ก็กำลังทำกิจกรรมอยู่ที่ประเทศไทย และเพิ่งเดินทางกลับเกาหลีอีกครั้ง หลังคัมแบ็กด้วยเพลง “HWAA” เหล่าเมมเบอร์ในวงต่างแยกย้ายกันไปทำงานต่าง ๆ ทั้งรายการวาไรตี้ในเกาหลีใต้และประเทศจีน ทำให้บรรดาแฟนคลับกังวลถึงอนาคตของวง ส่วนนัตตี้ อานัชญา สุพุทธิพงศ์ หลังออกจากการเป็นเทรนนีค่าย JYP Entertainment ก็เดินหน้าเข้าร่วมรายการเซอร์ไววัล Idol School และล่าสุดกำลังเต็มที่กับการทำงานในฐานะศิลปินเดี่ยว


จากบทสัมภาษณ์ของ มิ้นท์ TINY-G และมินนี่ (G)I-DLE ต้องยอมรับว่า นอกจากความกดดันในฐานะชาวต่างชาติที่คอร์สเรียนภาษาเป็นภารกิจสำคัญในการเป็นเด็กฝึกหัดในเกาหลีใต้แล้ว ตารางชีวิตในการฝึกร้อง ฝึกเต้น ฝึกการแสดง ตลอดจนการทดสอบในแต่ละสัปดาห์และการสอบรายเดือนกลายเป็นแบบทดสอบวัดใจบนเส้นทางฝัน

ขณะเดียวกันหลังเดบิวต์เป็นศิลปินแล้ว เหล่าไอดอลไม่ได้สบายอย่างที่คิด แต่กลับต้องทำงานหนักมากยิ่งขึ้นทั้งการฝึกร้อง ฝึกเต้นเพื่อไปแสดงในแต่ละรายการ แต่ละเวที ไม่มีวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ช่วงใกล้คัมแบ็กต้องซ้อมเพลงใหม่เกือบ 20 ชั่วโมง และช่วงที่ต้องแสดงเพลงเก่าด้วยแล้วก็ยิ่งต้องซ้อมหนักขึ้นไปอีก

ในยุคที่ผู้คนจดจำเพียงผู้ชนะ แต่ไม่ได้หมายความว่าผู้ที่แพ้จะไม่ใช่คนที่พยายามหรือจะกลายเป็นผู้ล้มเหลว เหล่าแฟนคลับเกาหลีหลายคนที่ชื่นชอบวงที่ยังไม่ได้เป็นที่รู้จักต่างทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์วงที่ตัวเองชื่นชอบอย่างเต็มกำลัง ด้วยหวังว่าใครอีกหลายคนจะได้เปิดใจและเห็นถึงความสามารถของคนที่เราชื่นชอบและเห็นถึงความอดทนพยายามที่ไม่หยุดยั้งเพื่อรักษาเวทีและทำตามความฝันของพวกเขามาโดยตลอด

 

อ่านเพิ่มเติม

ดูซีรีส์เป็นอาชีพ : Jirisan จอนจีฮยอน-จูจีฮุน นำทีมลุ้นระลึกกับภารกิจเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า

ดูซีรีส์เป็นอาชีพ : "พิธีกรไลฟ์" ไม่ต้องรอ 11.11 ก็ขายได้หลักล้าน กับ Something Just Like This

ดูซีรีส์เป็นอาชีพ : From Five To Nine เมื่อ "พระญี่ปุ่น" แต่งงานได้และรวยมาก

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง