เทคโนโลยีเครื่องบินขับไล่ในปัจจุบันกำลังก้าวเข้าสู่ "เครื่องบินขับไล่ในยุคที่ 5" ที่มีการติดตั้งเทคโนโลยีล่องหนอำพรางตัวจากการตรวจสอบพบของเรดาร์ เครื่องบินขับไล่ "F-35 Lightning II" ถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นในจำนวนมากที่สุดเมื่อเทียบกับเครื่องบินขับไล่ในยุคที่ 5 ด้วยกัน โดยถูกผลิตขึ้นมาแล้วกว่า 750 ลำ กระจายอยู่ในกองทัพสหรัฐอเมริกาและประเทศพันธมิตรอื่น ๆ ทั่วโลก
จุดเด่นของเครื่องบินขับไล่ F-35 นอกจากความสามารถในการล่องหน การบินขึ้นและลงจอดในแนวดิ่ง F-35 ยังติดตั้งระบบการควบคุมเครื่องบินที่ยอดเยี่ยมผ่านห้องนักบิน ระบบศูนย์เล็งยิงติดหมวกของนักบิน ทำให้สามารถระบุเป้าหมายและทำการยิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงระบบทำสงครามก่อกวนสัญญาณในแบบเดียวกับที่ติดตั้งบนเครื่องบิน EA-6B Prowler
จุดด้อยของเครื่องบินขับไล่ F-35 อยู่ที่มูลค่าของเครื่องบินมีราคาสูง ปัจจุบันมีราคาอยู่ที่ประมาณ 85 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 3,000 ล้านบาทต่อ 1 ลำ ราคานี้ไม่รวมระบบอาวุธและต้นทุนต่อชั่วโมงการบินที่มีราคาแพง ปัจจุบันนอกจากสหรัฐอเมริกามีประจำการอยู่ในบางประเทศเท่านั้น เช่น ออสเตรเลีย อิสราเอล อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ และสหราชอาณาจักร
เครื่องบินขับไล่ F-35 Lightning II โดยหลักแล้วแบ่งออกเป็น 3 รุ่นด้วยกัน ประกอบด้วย
- F-35A ออกแบบเพื่อใช้งานในการบินขึ้นลงปกติบนรันเวย์สนามบิน
- F-35B ออกแบบเพื่อใช้งานในการบินขึ้นและลงจอดในแนวดิ่งบนเรือบรรทุกเครื่องบินหรือภารกิจอื่น ๆ ที่ไม่มีรันเวย์สำหรับเครื่องบิน
- F-35C ที่ออกแบบเพื่อใช้งานบนเรือบรรทุกเครื่องบินโดยเฉพาะมีปีกใหญ่กว่ารุ่นอื่น ๆ
นอกจากนี้ ยังมีรุ่นพิเศษที่บริษัทผู้ผลิตออกแบบเพื่อใช้งานโดยเฉพาะในกองทัพบางประเทศ เช่น เครื่องบินขับไล่ F-35I Adir สำหรับกองทัพประเทศอิสราเอลซึ่งมีบางรายละเอียดรวมไปถึงระบบอาวุธ เครื่องบินขับไล่ F-35D และ CF-35 ซึ่งเป็นรุ่นเฉพาะสำหรับบางประเทศที่สั่งซื้อ รวมไปถึงรุ่นพิเศษยังไม่มีการเปิดเผยชื่อที่มีการผ่านงบประมาณในการพัฒนาเมื่อปลายปี 2021
ที่มาข้อมูลและภาพ:lockheedmartin
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech