วันนี้ (20 ก.พ.2565) นายนิพัฒน์ เนื้อนิ่ม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกร จ.ราชบุรี เปิดเผยว่า สถานการณ์การเลี้ยงสุกรยังไม่ดีขึ้น เนื่องจากยังไม่มีวัคซีนโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกร หรือ ASF ทำให้ขณะนี้เกษตกรรายย่อยเสียหาย ร้อยละ 50 เพราะแม่พันธุ์และลูกหมูขุนหายไปจากระบบ โดยเฉพาะผู้เลี้ยงสุกรรายเล็กไม่มีเงินทุน และหลายรายยังไม่ได้รับเงินชดเชยตามรัฐบาลจะจัดสรร เพราะพิสูจน์ไม่ได้ว่าสุกรตายด้วยโรค ASF จึงอยากให้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือผู้เลี้ยงสุกรอย่างจริงจัง
ขณะที่นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือ CPF เชื่อว่าสถานการณ์โรคระบาด ASF จะไม่รุนแรงเข้าขั้นวิกฤตอย่างที่หลายฝ่ายกังวล โดยบริษัทยังมีปริมาณสต็อกหมูที่เป็นปกติ และได้รายงานให้กระทรวงพาณิชย์รับทราบ เนื่องจากฟาร์มเกษตรรายย่อยที่จัดส่งสุกรให้บริษัทมีการวางระบบควบคุมเข้มข้น แต่สถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้อาจใช้เวลา 6 เดือนถึง 1 ปี
แต่หากรัฐบาลสามารถบริหารจัดการได้เร็ว โดยเร่งจ่ายเงินชดเชยร้อยละ 70 ให้ผู้เลี้ยงสุกรรายเล็กได้ ก็จะทำให้สถานการณ์หมูในระบบดีขึ้น ส่วนราคาเนื้อหมูขณะนี้เริ่มปรับลดลงมาแล้ว และเชื่อว่าเดือน มี.ค.-เม.ย. ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อน ราคาเนื้อหมูจะไม่สูงเท่ากับช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา
อ่านข่าวอื่นๆ
เกษตรกรค้านนำเข้าเนื้อหมู-ราคาหน้าฟาร์มอ่อนตัวแล้ว
"ก้าวไกล" แฉรัฐปกปิด ASF ระบาด ทำหมูแพง-หนุนนายทุนกินรวบ