วันนี้ (21 มี.ค.2565) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ แกนนำพรรคสร้างอนาคตไทย จัดกิจกรรมพบปะจิบน้ำชายามบ่าย และเปลี่ยนมุมมองความคิดเห็นต่อประเด็นสถานการณ์พลังงาน และการเมืองไทย เรื่องความพร้อมจัดเลือกตั้งครั้งหน้า โดยวางเป้าหมายส่งผู้สมัคร 400 เขตเก็บคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ และส่งบัญชีรายชื่อ ยอมรับเป็นพรรคใหม่ ความพร้อมตอนนี้ครึ่งหนึ่งของเป้าหมาย ส่วนเรื่องกลไกกฎหมายเลือกตั้ง
สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญเพราะมีการแข่งขันมากในเขตเลือกตั้ง ซึ่งกำลังเตรียมว่าที่ผู้สมัครพรรค และพยายามเน้นคนรุ่นใหม่เข้าสู่การเมือง ผสมผสานผู้มีประสบการณ์ ต้องการให้มีตัวเลือกใหม่ ๆ ไม่ต้องการให้เกิดทางตันทางการเมือง หากไม่มีตัวเลือกใหม่ ๆ โครงสร้างการเมืองก็จะเป็นแบบเดิม
พรรคจะเน้นบุคคลที่เป็นมืออาชีพทางการเมืองและไม่มีประวัติด่างพร้อย มีความตั้งใจทำงานการเมือง และในขณะนี้พื้นที่เลือกตั้งใน กทม.พร้อมครึ่งหนึ่งแล้วจาก 33 เขต พร้อมสู้ศึกในสนามเลือกตั้งไม่ว่าจะยุบสภาฯ ก่อน พ.ค.2565 หรือ ตามไทม์ไลน์ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กล่าวไว้ว่าหลังประชุมเอเปค
ส่วนกรณีที่เพื่อไทยเปิดตัว "อุ๊งอิ๊ง-แพรทองธาร ชินวัตร" เชื่อว่า พรรคเพื่อไทยมียุทธศาสตร์ทางการเมือง โดย "อุ๊งอิ๊ง" เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ และเชื่อว่า ทุกพรรคพยายามหาจุดขายให้พรรคตัวเอง โดยไม่ได้กังวลใจถึงการเปิดตัวทายาททางการเมืองของนายทักษิณ ชินวัตร
และพรรคสร้างอนาคตไทยมีความพร้อมมากที่สุดทีมเศรษฐกิจ ในภาวะเศรษฐกิจไทยขณะนี้ จะทยอยเปิดตัว เพื่อสร้างความพร้อมคว้าชัยชนะในสนามเลือกตั้ง และยืนยันจุดยืนของพรรคที่จะไม่สร้างปัญหาหรือความแตกแยกในสังคม แต่จะสร้างความสมานฉันท์ของคนในสังคมไทย โดยนโยบาย ด้านเศรษฐกิจจะเป็นจุดแข็งของพรรคสร้างอนาคตไทย
พร้อมเปิดเผยว่าเดือน เม.ย.ก่อนเทศกาลสงกรานต์จะประชุมใหญ่ เพื่อปรับโครงสร้างพรรค ส่วนบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรคยังมีเวลา ก่อนถึงการเลือกตั้งที่จะเปิดเผย และขณะนี้ยังไม่มีพรรคการเมืองใดเปิดเผยรายชื่อนายกของพรรค โดยย้ำว่า พรรคให้ความสำคัญกับคุณสมบัติของแคนดิเดตนายกฯมากกว่าตัวบุคคล ต้องเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ ในการแก้ไขปัญหาประเทศ และต้องมีประวัติการทำงานที่โปร่งใส ต้องเป็นคนเก่งควบคู่คนดี และสามารถนำประเทศไปสู่การแข่งขันในระดับภูมิภาคนานาประเทศ เป็นที่ยอมรับนานาชาติ
ทั้งนี้ นายสนธิรัตน์ ไม่ขอแสดงความเห็นไทม์ไลน์ที่เหมาะสมในการยุบสภา และชี้ว่า เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีที่จะพิจารณา ซึ่งสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ หลายฝ่ายก็ยังไม่มั่นใจว่าจะยุบสภาเมื่อไหร่ แต่เชื่อว่านายกรัฐมนตรียังคงมุ่งมั่นที่จะนำพาประเทศไปจนถึงการเป็นเจ้าภาพประชุมเอเปก โดยพรรคสร้างอนาคตไทยไม่ได้คาดหวังว่าจะยุบสภาเมื่อไหร่แต่ก็เตรียมพร้อมตลอดเวลา ต่อความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่จะเกิดขึ้น
ทั้งนี้ ถือโอกาสกล่าวอวยพร เนื่องในวันคล้ายวันเกิด 68 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยกล่าวขอให้เข้มแข็ง ขอให้ประสบความสำเร็จในการนำพาประเทศ ผ่านพ้นวิกฤต ในฐานะที่เคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ขอเป็นกำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ได้แบกรับปัญหาของประเทศไว้ ขอให้มีสุขภาพกายใจ แข็งแรงในการรับหน้าที่สำคัญ ให้มีสิ่งดี ๆ เสริมหนุนให้นำพาประเทศฝ่าฟัน วิกฤติไปให้ได้ นายสนธิรัตน์ ยังไม่ยืนยันว่าจะมีโอกาสร่วมงานกันทางการเมืองอีกหรือไม่ แต่จะฟังการตัดสินใจของประชาชน
นายสนธิรัตน์ ยังกล่าวว่า วิกฤติพลังงานในขณะนี้เป็นวิกฤตที่ใหญ่ และไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือภาระของประชาชนที่เพิ่มมากขึ้น และปัญหาของภาคธุรกิจ ถึงเสนอออกมาตรการที่จะช่วยแบ่งเบาภาระประชาชนได้ทันที คือ การกลั่นน้ำมัน เพื่อสะท้อนต้นทุนจริงให้มากที่สุด โดยไม่จำเป็นต้องอ้างอิงราคาจากสิงคโปร์ หรือการลดภาษีนำเข้าน้ำมันดิบ การจัดการกองทุนน้ำมัน และเสนอจัดเก็บภาษีคาร์บอน