วันนี้ (22 เม.ย.2565) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ย่านหรูใจกลางนครเซี่ยงไฮ้ของจีน อย่างเขตจิ้งอันที่มีประชาชนอาศัยอยู่ร่วม 1 ล้านคนเริ่มเงียบเหงา เจ้าหน้าที่กั้นประตูร้านค้า ห้างสรรพสินค้าและจุดต่าง ๆ หลังถูกจัดเป็นพื้นที่ป้องกัน ตามมาตรการจัดการ COVID-19 พร้อมกับคำสั่งล็อกดาวน์ห้ามออกนอกอาคารที่พักอาศัย แม้จะไม่มีผู้ติดเชื้อมาสักพัก และเข้าเกณฑ์ให้ประชาชนเริ่มออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านได้บ้าง
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์ในท้องที่ทางตอนเหนือของเซี่ยงไฮ้สั่งการย้ายประชาชนทั้งชุมชนไปกักตัวยังศูนย์ที่อยู่ห่างออกไปมากกว่า 160 กิโลเมตร โดยย้ายผู้ที่ตรวจหาเชื้อแล้วมีผลเป็นลบ จากชุมชนในเซี่ยงไฮ้ไปในมณฑลเจ้อเจียงอย่างน้อย 1 สัปดาห์
แม้จะยังไม่มีเหตุผลที่แน่ชัดเกี่ยวกับการย้ายคนไม่ติดเชื้อออกไปนอกพื้นที่ แต่เจ้าหน้าที่เขตต่าง ๆ กำลังเผชิญกับแรงกดดันให้ตัดวงจรการระบาดและควบคุมการติดเชื้อเป็นศูนย์ให้ได้
ก่อนหน้านี้ เซี่ยงไฮ้ก็มีกรณีการย้ายแบบยกชุมชนมาแล้ว เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปฆ่าเชื้อในชุมชน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะประกาศให้เก็บข้าวของ แต่ให้เปิดประตูตู้เสื้อผ้าทิ้งไว้ เปิดประตูบ้าน (ห้องพัก) เอาไว้ด้วย และไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงไปด้วย
ฮ่องกงผ่อนคลายมาตรการครั้งแรกในรอบ 4 เดือน
ส่วนที่ฮ่องกงประชาชนได้ออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านอีกครั้ง ทั้งไปออกกำลังกาย เข้าร้านตัดผม เที่ยวสวนหนุก หรือชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์เป็นครั้งแรกในรอบมากกว่า 4 เดือน หลังจากทางการประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุม COVID-19
ร้านอาหารหลายแห่งเปิดรับลูกค้าได้อีกครั้ง และมีลูกค้าจองโต๊ะจนเต็มล่วงหน้าหลายสัปดาห์ เนื่องจากทางการขยายเวลาเปิดให้จนถึง 22.00 น. จากเดิมที่บังคับให้ปิด 18.00 น. และการรวมกลุ่มกันจากเดิมที่จำกัดไว้เพียง 2 คน ก็อนุญาตเพิ่มเป็น 4 คน
อย่างไรก็ตาม สถานที่บางประเภท เช่น ชายหาด สระว่ายน้ำ บาร์ คลับ ซาวนา ยังปิดอยู่ โดยตัวเลขผู้ติตเชื้อในฮ่องกงอยู่ในระดับวันละไม่ถึง 1,000 คน มาร่วมสัปดาห์ จากก่อนหน้านี้ช่วงต้นเดือน มี.ค.ที่ระบาดรุนแรงมีผู้ติดเชื้อถึงวันละมากกว่า 70,000 คน
ที่มา : BBC, Reuters, AP
อ่านข่าวอื่นๆ
ชาวเซี่ยงไฮ้ราว 4 ล้านคนพ้นกฎคุมโควิด-19 ระดับสูงสุด
ขนส่งสาธารณะในสหรัฐฯ ยกเลิกการสวมหน้ากากอนามัย