วันนี้ (28 เม.ย.2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจปราบปรามยาเสพติดนำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี พร้อมนำหมายจับของ น.ส.สุทธิตา (สงวนนามสกุล) ในข้อหาสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับผู้ค้ายาเสพติด มาแสดงก่อนเข้าตรวจค้นภายในบ้าน
เบื้องต้นตรวจค้นในห้องนอน พบปืน 2 กระบอก โทรศัพท์มือถือ ทะเบียนรถป้ายแดง และสินค้าแบรนด์เนมอีกหลายรายการ ซึ่งเป็นของสามีของผู้ต้องหา
น.ส.สุทธิตา ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด ที่ผ่านมาทำอาชีพขายเสื้อผ้าออนไลน์ โดยไลฟ์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก มีใบจดทะเบียนบริษัททุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท เมื่อปี 2562 เสียภาษีทุกปี โดยรายได้หลักมาจากการขายเสื้อผ้าเท่านั้น การขายแต่ละครั้งมีรายได้วันละกว่า 1 ล้านบาท และพร้อมจะชี้แจงกับตำรวจได้ทั้งหมด
แต่ยอมรับว่ารู้จักกับหญิงคนหนึ่งชื่อ น.ส.กนกกร ที่เคยเป็นแอดมินเพจของตัวเองและได้ลาออกไปแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด ส่วนเส้นทางการโอนเงินไปให้บุคคลอื่นครั้งละหลายล้านบาท ยืนยันว่าไม่มี
ขณะที่ พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 2 เปิดเผยว่า แนวทางการสืบสวนของตำรวจพบว่า ผู้ต้องหาคนดังกล่าวมีเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดใน จ.สระบุรี ที่เคยจับกุมก่อนหน้านี้ คือผู้ต้องหาที่เป็นคู่แฝดกันและถูกยิงเสียชีวิตก่อนตำรวจเข้าจับกุมเมื่อปี 2561 ส่วนอีกคนถูกตำรวจวิสามัญฆาตกรรมเมื่อปี 2562 ใน จ.ลพบุรี
จากนั้นพบว่ามีการตั้งเครือข่ายขึ้นมาใหม่เพื่อค้ายาเสพติดในพื้นที่ ตำรวจสืบสวนขยายผลจากการจับยาบ้า 12 ล้านเม็ดเมื่อปี 2563 และยาบ้า 590,000 เม็ด รวมถึงคดีจับไอซ์ 516 กก.เมื่อปี 2564 ที่ส่วนใหญ่ลำเลียงมาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ก่อนจะพบความเชื่อมโยงระหว่างผู้ต้องหาที่จับได้พร้อมของกลางมาถึงผู้ต้องหาที่เข้าจับในวันนี้ (28 เม.ย.)
จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ต้องหา พบว่า มีการทำธุรกิจบังหน้าหลายอย่าง และให้บุคคลอื่นถือครองทรัพย์สินแทน มีการนำเงินไปซื้อสินค้าแบรนด์เนมหลายรายการ ส่วนการตั้งบริษัทที่ค้าขายเสื้อผ้ามีทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท แต่ยังไม่พบหลักฐานการเสียภาษี ส่วนเงินหมุนเวียนในรอบปี 2562 มีกว่า 242 ล้านบาท
แนวทางการสืบสวนยังพบว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้จะทำหน้าที่จัดหาทีมขนยาเสพติด โดยวางแผนซื้อรถยนต์มือสองเพื่อนำไปขนยาเสพติด เช่าบ้านพักให้กับกลุ่มลำเลียง และมีความสามารถในการสั่งซื้อยาเสพติดจากเครือข่ายของ “นายหนูเฉิน” พ่อค้ายาเสพติดในลาว ครั้งละไม่ต่ำกว่า 10 ล้านเม็ด ก่อนจะพบเส้นทางการเงินโอนเข้าไปถึงกลุ่มพ่อค้ายาเสพติดในลาว
นอกจากนี้ยังพบว่า สามีของผู้ต้องหารวมตัวกันไปปาร์ตี้ยาเสพติดในสถานที่แห่งหนึ่ง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี และสามารถจับผู้ต้องหาได้รวม 14 คน ซึ่งสามีของผู้ต้องหาและลูกน้องอีก 2 คนอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย ตำรวจจึงตรวจปัสสาวะและพบมีสารเสพติดอยู่ในร่างกายทั้ง 3 คน
อ่านข่าวอื่นๆ
รวบแล้ว! ผู้ต้องหาชิงทรัพย์ "พ่อค้าขายสลากฯ" เป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซีก
จับ "หม่อมหลวง" แก๊งตั๋วทิพย์ หลอก ตร.โอน 5 ล้าน วิ่งเต้นขึ้น ผกก.
รถ จยย.ถูกชนท้าย คนขี่-ซ้อนตกสะพานข้ามแยกรัชวิภาเสียชีวิต 1 เจ็บ 1