จับตาสินค้าจำเป็นทยอย "ขึ้นราคา" สวนทางมาตรการรัฐ

วันนี้ (2 มิ.ย.2565) ทีมข่าวไทยพีบีเอสสำรวจราคาสินค้า พบว่า กระดูกหมู เป็นส่วนที่แม่ค้าเขียงหมูบอกว่าขายดีที่สุด เพราะราคากิโลกรัมละ 100 บาท ขณะที่หมูเนื้อแดงขยับราคาขึ้นไปอยู่ที่กิโลกรัมละ 200 บาท จากปี 2564 ที่กิโลกรัมละ 140-160 บาท เฉพาะเดือน มิ.ย.เดือนเดียว เนื้อหมูปรับขึ้นถึง 4 ครั้ง กระทบทั้งคนขายและคนซื้อ ลูกค้าหันมาซื้อส่วนหมูที่ราคาถูกมากขึ้นและลดการซื้อลง

ส่วนราคาไก่สดก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นเดียวกัน โดยเนื้อหน้าอกปรับเพิ่มจากปี 2564 ประมาณ 60-70 บาทต่อกิโลกรัม มาอยู่ที่กิโลกรัมละ 90-95 บาท

พ่อค้าอาหารตามสั่งคนหนึ่ง ยอมรับว่า ราคาสินค้าหลายรายการปรับเพิ่มขึ้น ทำให้แทบไม่มีกำไร เช่น น้ำมันปาล์มที่ราคาสูงมาก จึงซื้อมันไก่ไปทำน้ำมันใช้แทน และเห็นว่าการดูแลราคาสินค้าของรัฐบาลล้มเหลว

ข้อมูลของหน่วยงานกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า สินค้าจำเป็น 18 หมวด ราคาปรับขึ้นเกือบทั้งหมด เช่น หมูเนื้อแพง ที่เพิ่มจากปี 2564 ร้อยละ 19, เนื้ออกไก่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 19, ซาดีนซอสมะเขือเทศ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 และน้ำมันปาล์ม เพิ่มขึ้นร้อยละ 26 เป็นต้น

ข้อมูลดังกล่าวดูเหมือนจะว่าสวนทางกับสิ่งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ชี้แจงในการประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2566 ที่ระบุว่า ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการตรึงราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการอุปโภค-บริโภค 18 หมวดไว้แล้ว และมีสินค้าที่ราคาลดลง เช่น ATK ลดลงร้อยละ 30 ส่วนอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในกลุ่มประเทศเงินเฟ้อต่ำ เมื่อเทียบกับประเทศอื่น

นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่งปลีกไทย ประเมินว่า ในระยะสั้นช่วง 3 เดือนนี้ สถานการณ์ราคาสินค้ายังไม่คลี่คลายหรือมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากต้นทุนการผลิตสินค้าที่สูงขึ้น ทั้งราคาน้ำมัน ปัญหาสงครามที่ยืดเยื้อระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงมาตรการคว่ำบาตรของประเทศต่างๆ

การจำกัดสินค้าบางชนิด ทำให้สินค้าที่ขึ้นราคาไปแล้วยังไม่มีโอกาสลดลง ส่วนสินค้าที่ยังไม่ขึ้นราคา หลายรายการก็เตรียมปรับขึ้น ล้วนเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องเผชิญและปรับตัวประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น

อ่านข่าวอื่นๆ

"พลังงาน" เตรียมถกร่วมขอลดค่าการกลั่นน้ำมัน

1 มิ.ย. ก๊าซหุงต้มขึ้นราคาอีก 15 บาท เป็น 363 บาทต่อถัง 15 กก.