วันนี้ (22 มิ.ย.2565) นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยหลังจากหารือร่วมกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครว่า นายชัชชาติ ชวนจัดตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐ และเอกชนของกรุงเทพมหานคร หรือ กรอ.กทม. ซึ่งมี 3 ส่วนหลัก ได้แก่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, สภาหอการค้าไทย, สมาคมธนาคาร เพื่อหาแนวทางร่วมมือกันพัฒนา กทม.เพราะ กทม.เป็นศูนย์กลางของประเทศไทย ที่มีผลเกี่ยวกับสังคมและเศรษฐกิจ
นายเกรียงไกร กล่าวว่า ส.อ.ท.มีนโยบาย BCG + E S จากนี้ต้องดูว่าแนวคิดไหนสามารถทำร่วมกับนโยบาย 214 ข้อของ กทม.ได้
ส.อ.ท. มีสถาบันน้ำและสถาบันสิ่งแวดล้อม ที่จะช่วยบำบัดน้ำในคูคลองให้กลับมีสภาพดีเหมือนในอดีต ซึ่งนายชัชชาติ เสนอให้บำบัดฟื้นฟูคลองหัวลำโพง เพื่อเป็นโมเดลให้กับคลองอื่น ๆ ต่อไป
นอกจากนี้ ส.อ.ท.ยังมีโครงการ Smart Agriculture Industry (SAI) ส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรอัจฉริยะ โดยจะนำพื้นที่เปล่าในกรุงเทพมหานครมาใช้ประโยชน์ และสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน ขณะนี้ทาง กทม.อยากให้ทำคลองเตยเป็นโมเดล ให้ชุมชนคลองเตยมีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
แก้คอร์รัปชัน ลดต้นทุนภาคเอกชน
นายเกรียงไกร ระบุถึงนโยบายการต่อต้านคอร์รัปชันว่า ปัญหาทุจริตใน กทม. เป็นปัญหาใหญ่ ที่ต้องร่วมมือกันแก้ ไม่มีคนให้ ก็ไม่มีคนรับ ในฐานะภาคเอกชน ก็อยากให้เกิดความโปร่งใสทุกขบวนการ เช่น การขอใบอนุญาตต่าง ๆ ถ้าไม่มีการคอร์รัปชันจะช่วยให้การทำธุรกิจง่ายขึ้น สร้างความมั่นใจให้นักลงทุน และลดต้นทุน
การขอใบอนุญาตยุ่งยาก ถ้าอยากได้เร็ว ก็มีวิธีพิเศษ จากนี้อยากให้มีมาตรฐานที่ดี มีความรวดเร็ว และโปร่งใส
ประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า นายชัชชาติอยากให้ทุกภาคส่วนใน กทม.เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนากรุงเทพฯ ให้สามารถเดินหน้าและแก้ปัญหาที่มีอยู่ได้อย่างยั่งยืน ซึ่งภาคเอกชนยินดีที่จะให้ความร่วมมือ