กรณีข่าวการตรวจยึดยาเสพติดรูปแบบใหม่ ซึ่งเป็นยาอีลักษณะเป็นเม็ดในรูปแบบตัวการ์ตูนหมีพูห์ สีเหลือง พร้อมยานอนหลับชนิดรุนแรง ในพื้นที่ จ.นครพนม วันนี้ (20 ก.ค.2565) นพ.มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบยาอี ยาเลิฟ เอ็คซ์ตาซี เป็นยาเสพติดตัวเดียวกัน มีฤทธิ์หลอนประสาทและกระตุ้นประสาท จะแตกต่างกันบ้างในด้านโครงสร้างทางเคมี มีทั้งที่เป็นแคปซูล และเป็นเม็ดยาสีต่างๆ นิยมใช้ในกลุ่มนักเที่ยวกลางคืน
เมื่อเสพยาอี เข้าสู่ร่างกายจะออกฤทธิ์ภายในเวลา 45 นาที ฤทธิ์ของยาจะอยู่ในร่างกายได้นานประมาณ 6-8 ชั่วโมง โดยออกฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทในระยะเวลาสั้นๆ
หลังจากนั้นจะหลอนประสาทอย่างรุนแรง ผู้เสพจะรู้สึกร้อน เหงื่อออกมาก หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง การได้ยินเสียงการมองเห็นแสงสีต่างๆ ผิดไปจากความเป็นจริงเคลิบเคลิ้ม รู้สึกตื่นตัวตลอดเวลา ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้
ในส่วนของยานอนหลับชนิดรุนแรง ที่พบจะออกฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง ทำให้หลับ และเป็นยาที่ไม่มีในบัญชียาของกระทรวงสาธารณสุข คาดว่าจะนำยาทั้ง 2 ชนิดที่ตรวจพบมาเสพร่วมกันเพื่อให้ออกฤทธิ์รุนแรงมากขึ้น
พบยาอีหมีพูห์ผสมยานอนหลับอันตราย
นพ.สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผอ.สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) กล่าวว่า ยาอีหมีพูห์ และยานอนหลับที่ตรวจพบเป็นยาเสพติดที่เป็นอันตรายในส่วนของยาอี จะเข้าไปทำลายระบบประสาททำให้เซลล์สมองส่วนที่ทำหน้าที่หลั่งสารซีโรโทนิน (Serotonin)
ซึ่งเป็นสารสำคัญในการควบคุมอารมณ์ทำงานผิดปกติ โดยจะหลั่งสารนี้ออกมามากกว่าปกติทำให้สดชื่น อารมณ์ดี แต่เมื่อเวลาผ่านไปสารดังกล่าวจะลดน้อยลง ทำให้ผู้เสพเข้าสู่สภาวะอารมณ์เศร้าหมองหดหู่ เกิดอาการซึมเศร้า และอาจกลายเป็นโรคจิตประเภทซึมเศร้า มีแนวโน้มการฆ่าตัวตายสูงกว่าคนปกติ
นอกจากนี้การที่สารซีโรโทนินลดลง จะทำให้การนอนหลับผิดปกติ เวลาการนอนลดลง หลับไม่สนิท อ่อนเพลียขาดสมาธิในการเรียนและทำงาน เตือนกลุ่มวัยรุ่นและนักเที่ยวในสถานบันเทิง ที่นิยมใช้สารเสพติดเพื่อต้องการให้เกิดอาการมึนเมา และสนุกสนานมากขึ้นให้ตระหนักถึงอันตรายที่จะตามมา ร้ายแรงที่สุดอาจทำให้เสียชีวิตได้ ทั้งนี้หากประสบปัญหาเกี่ยวกับสุรา หรือยาและสารเสพติดสามารถขอรับคำปรึกษาเรื่องยาและสารเสพติดได้ที่ สายด่วนยาเสพติด 1165