วันนี้ (1 ส.ค.2565) กรมควบคุมโรค รายงานผลสอบโรคผู้ป่วยฝีดาษลิง คนที่ 2 เป็นชายไทยอายุ 47 ปี วันที่ 15 ก.ค. เป็นตุ่มหนองที่อวัยวะเพศ ใบหน้า และแขนขา เข้ารักษาที่โรงพยาบาลเอกชนวันที่ 26 ก.ค. และย้ายมารักษาที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล ผลตรวจยืนยันพบเชื้อฝีดาษลิง สายพันธุ์เวส แอฟริกัน B.1 (West Afican B.1) ที่กำลังระบาดในยุโรป จากการสอบสวนโรคคาดว่าติดเชื้อจากชายชาวต่างชาติ จากการมีเพศสัมพันธ์
ผลตรวจกลุ่มเสี่ยงผู้สัมผัสในบ้าน 2 หลัง รวม 18 คน ไม่พบเชื้อ แต่ให้สังเกตอาการ 21 วัน ส่วนผู้สัมผัสใกล้ชิดเป็นชาวยุโรป 1 คน ไม่พบเชื้อ ส่วนอีก 1 คนเป็นชาวเบลเยียม ผู้สัมผัสที่คาดว่าเป็นต้นเหตุการติดเชื้อ ซึ่งอยู่ระหว่างติดตาม แต่คาดว่าเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนเฉพาะโรคฝีดาษลิง แต่มีวัคซีนโรคฝีดาษรุ่น 3 ที่ผลิตในสหรัฐฯ ได้รับอนุญาตในการป้องกันฝีดาษลิง จึงได้ประสานองค์การเภสัชกรรมในการนำเข้ามาใช้ในประเทศไทย 1,000 โดส โดย 1 คนฉีด 2 โดส คาดว่าจะเข้ามาภายในเดือน ส.ค. แต่ไม่จำเป็นต้องฉีดให้กับทุกคน โดยฉีดเฉพาะกลุ่มที่จำเป็นเท่านั้น
ขณะที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เก็บตัวอย่างเชื้อผู้ป่วยฝีดาษลิงทั้ง 2 คนไปเพาะเชื้อ เพื่อนำไปทดสอบภูมิคุ้มกันโรคในกลุ่มคนที่ได้รับการปลูกฝี แต่การเพาะเชื้อยังใช้เวลาระยะหนึ่ง หากได้ผลจะประกาศหาอาสาสมัครที่เคยปลูกฝีมาเจาะเลือดเพื่อทดสอบ
ด้านกรมการแพทย์ออกแนวทางวินิจฉัยโรคฝีดาษลิง หากพบผู้ติดเชื้อให้รับเข้ารักษาในโรงพยาบาลในห้องแยกผู้ป่วยโรคติดเชื้อ ทั้งนี้ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงอาการรุนแรง เช่น คนที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ ผู้ที่ปลูกถ่ายอวัยวะ
อ่านข่าวอื่นๆ
ไม่พบฝีดาษลิง 30 ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สงสัย-ทั่วโลก 22,816 คน
กรมการแพทย์เปิดอาการ "ฝีดาษลิง" พบข้อมูลหายได้เองใน 4 สัปดาห์