วันนี้ (2 ส.ค.2565) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาขยายวงเงินในโครงการค้ำประกันสินเชื่อ วงเงิน 140,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวผู้ประกอบการ SME
ควบคู่กับการดำเนินมาตรการลดค่าครองชีพประชาชน ผ่านโครงการ "คนละครึ่ง" ระยะที่ 5 วงเงินคนละ 800 บาท ตลอดระยะเวลาโครงการ 2 เดือนนั้นถือว่าเหมาะสมแล้ว แม้ถูกวิจารณ์ว่าวงเงินน้อยเกินไป ไม่สอดคล้องกับสภาพค่าครองชีพก็ตาม เพราะรัฐบาลยังให้ความช่วยเหลือด้านพลังงาน ซึ่งเป็นต้นตอของปัญหาค่าครองชีพ
ขณะที่นายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เปิดเผยว่า สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) รายงานผลตรวจสอบการดำเนินโครงการ "คนละครึ่ง" ระยะที่ 1-4 ซึ่งใช้วงเงินมากกว่า 213,000 ล้านบาท พบว่าจำนวนผู้ใช้สิทธิต่ำกว่าเป้าหมาย อยู่ที่ 26 ล้านคน จากกรอบที่ได้รับอนุมัติ 29 ล้านคน ส่งผลให้มีงบคงเหลือกว่า 23,000 ล้านบาท เกิดค่าเสียโอกาสที่รัฐบาลจะนำเงินไปใช้ในโครงการอื่นๆ อีกทั้งยังพบปัญหาการใช้เงินไม่เป็นไปตามเงื่อนไข ทั้งผู้ใช้สิทธิและร้านค้า แต่กระบวนการตรวจสอบใช้เวลานานเกินไป
สตง.จึงแนะนำให้กระทรวงการคลังทบทวนจำนวนเป้าหมายของผู้เข้าร่วมโครงการฯ ให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง พร้อมติดตามการใช้เงินอย่างใกล้ชิด โดยไม่ต้องรอให้สิ้นสุดโครงการ เช่น การคืนวงเงินของผู้ที่ไม่เริ่มใช้สิทธิครั้งแรกภายในกำหนด
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะเปิดระบบลงทะเบียนใหม่ พร้อมกับยืนยันสิทธิผู้เข้าโครงการรายเดิม ตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค.นี้ โดยจะเริ่มใช้สิทธิได้ระหว่างวันที่ 1 ก.ย.- 31 ต.ค.2565 และต้องใช้จ่ายครั้งแรกภายในวันที่ 14 ก.ย. มิฉะนั้นจะถูกตัดสิทธิ
อ่านข่าวอื่นๆ
ข่าวดี! ครม.เคาะ "คนละครึ่งเฟส 5" คนละ 800 บาท
เช็กวิธีรับสิทธิ "คนละครึ่ง" เฟส 5