วันนี้ (5 ส.ค.2565) พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ระบุหลังเป็นประธานระดับปีกนักบินใหม่ 33 นาย ถึงกรณีที่ คณะกรรมาธิการงบประมาณ ปี 2566 (กมธ.งบฯ) เห็นชอบให้กองทัพอากาศจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ F-35 A ระยะที่ 1 จำนวน 2 เครื่อง วงเงินกว่า 369 ล้านบาทว่า
นักบินใหม่ส่วนหนึ่งอาจได้บินกับเครื่องเอฟ 35 หากการผลักดันโครงการจัดซื้อสำเร็จ และบางส่วนก็จะถูกคัดเลือกให้ไปบินกับเครื่องบินแบบต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้ว แต่ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเก่าหรือใหม่ กองทัพอากาศก็ดูแลรักษาและใช้งานให้มีความยั่งยืน มีประสิทธิภาพ ปลอดภัยสมราคาเครื่องบินและคุ้มค่าภาษี
กองทัพอากาศต้องขอบคุณนายกรัฐมนตรี กรรมาธิการงบประมาณปี 2566 ต่อการตัดสินใจอนุมัติงบประมาณในการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนฝูงใหม่
หลังจากนี้ยังมีกระบวนการที่ยากลำบากต่อไปอีก ซึ่งที่ผ่านมากองทัพอากาศได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการพิจารณาและติดต่อสื่อสารเบื้องต้นระหว่างกองทัพต่อกองทัพกับทางสหรัฐฯ ต่อไปจะเป็นขั้นตอนที่สูงขึ้นในระดับรัฐบาล
พล.อ.อ.นภาเดชกล่าวต่อว่า กองทัพอากาศยังไม่เคยดำเนินการเกี่ยวกับเครื่องบินขับไล่ ยุคที่ 5 และมีความแตกต่างจากที่ใช้งานในปัจจุบันอย่างมาก แต่กองทัพอากาศ ก็ได้แสวงหาข้อมูลจากกองทัพอากาศที่มีใช้งาน รวมถึงการศึกษาทางวิชาการ และการไปเยือนในประเทศต่าง ๆ มากพอสมควร
รวมทั้งได้ประสานขอความร่วมมือจากทางสหรัฐฯ ให้ส่งผู้เชี่ยวชาญมาให้คำแนะนำกับกองทัพอากาศไทย เรื่องของการจัดเตรียมอาคารสถานที่และเครื่องช่วยฝึกเพื่อรองรับเครื่องบินขับไล่ F-35 แต่อาจจะเดินทางมาในช่วงปลายปีนี้
เชื่อว่าการแสดงความพร้อมของกองทัพอากาศ และการรับฟังคำแนะนำต่าง ๆ จากทางสหรัฐฯ น่าจะเป็นผลดีต่อการผลักดันโครงการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ F-35 เพราะองค์ประกอบทั้งหมดนี้จะมีผลต่อการตัดสินใจของสภาของเกรส ว่าจะปฏิเสธหรือตอบรับขายเครื่องบินขับไล่ F-35 ให้ไทย คาดว่าน่าจะได้คำตอบตั้งแต่เดือน ก.พ.2566 เป็นต้นไป
ผู้บัญชาการทหารอากาศ ยังระบุถึงการพิจารณาเลือกผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) คนใหม่ว่า เป็นสิ่งที่ยากในการตัดสินใจ ขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจเลือกใครแบบที่เป็นลายลักษณ์อักษร แต่ยอมรับว่ามีคนในใจ และไม่ได้มีเพียงคนเดียว แต่มีเป็นกลุ่มบุคคล ซึ่งทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นคนดีมีความสามารถ และต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย
โครงการ F-35 มีผลต่อการพิจารณาเลือกบุคคล ที่จะมาเป็นผบ.ทอ.คนใหม่ เพราะเป็นโครงการใหญ่ที่มีความสำคัญ สามารถชี้ชะตาประสิทธิภาพและความทันสมัยของกองทัพอากาศได้ ซึ่งผู้ที่จะเป็น ผบ.ทอ.คนใหม่ควรจะต้องเป็นนักบิน แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นนักบินขับไล่ และสิ่งสำคัญคือจะต้องทำให้กองทัพอากาศมีประสิทธิภาพ