วันนี้ (31 ส.ค.2565) กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์ โพสต์ข้อความระบุว่า กทม. จับจริง ปรับจริง ขับขี่หรือจอดรถบนทางเท้า กทม.จะรวบรวมพยานหลักฐาน ส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดี ดังนี้ กรณีพบตัวผู้กระทำความผิด ยินยอมเปรียบเทียบปรับ แต่ไม่ชำระค่าปรับภายใน 15 วัน และไม่ยินยอมให้เปรียบเทียบปรับ
ส่วนกรณีไม่พบตัวผู้กระทำผิด จะออกหนังสือเชิญพบ 2 ครั้ง และไม่มาพบภายในกำหนดเวลา ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบเห็นผู้ที่ฝ่าฝืนจอดรถ แจ้งได้ที่ลิ้งก์ www.bangkok.go.th/reward , http://203.155.220.179/reward หรือสแกน QR Code สอบถามเพิ่มเติมที่สำนักเทศกิจ กรุงเทพมหานคร 02-465-6644
จากการตรวจสอบพบว่า มาตรการดังกล่าวบังคับใช้ตามตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาด พ.ศ.2535 ได้ให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ในการปรับได้สูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท แต่นโยบายเริ่มต้นปรับ 500 บาทในช่วงแรกและเพิ่มเป็น 2,000 บาท ซึ่งที่ผ่านมาพบปัญหาการขับบนทางเท้า จอด และขับย้อนศรทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง
ใช้กล้อง CCTV แก้จราจร-จุดเสี่ยงอุบัติเหตุ
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประชุมร่วมกับนายนินนาท ไชยธีรภิญโญ ประธานมูลนิธิศูนย์ข้อมูลจราจรอัจฉริยะไทย (iTIC) ผู้บริหารมูลนิธิศูนย์ข้อมูลจราจรอัจฉริยะไทย หารือแนวทางแก้ปัญหาการจราจร และความปลอดภัยบนท้องถนนในกรุงเทพมหานคร
โดยกทม.มีกล้อง CCTV อยู่ประมาณ 60,000 กล้อง ที่ผ่านมาได้ส่งข้อมูลให้ตำรวจจราจรเป็นหลัก แต่ยังไม่มีการนำข้อมูลมาวิเคราะห์ โดยอาจจะเอาระบบ AI มาวิเคราะห์ หาข้อมูลมาตอบโจทย์ในการแก้ไขปัญหาการจราจรให้ดีขึ้น วิเคราะห์ว่าจุดเสี่ยง 100 จุดที่เกิดอุบัติเหตุมีที่ไหนบ้าง การนำข้อมูลเรื่องรถติด มาวิเคราะห์ว่าปัญหารถติดมีในช่วงเวลาใดบ้าง