วันนี้ (3 ก.ย.2565) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐฯ รับรองข้อตกลงขายอาวุธชุดใหม่ให้ไต้หวัน ซึ่งประกอบไปด้วยระบบเรดาร์เตือนภัย และตรวจจับการโจมตีทางอากาศ ขีปนาวุธต่อต้านเรือและอากาศยาน รวมแล้วมูลค่า 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 40,000 ล้านบาท โดยข้อตกลงฉบับดังกล่าว จะต้องรอการอนุมัติจากสภาคองเกรสต่อไป
โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า ข้อตกลงนี้จำเป็นต่อความมั่นคงของไต้หวัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่สหรัฐฯ จะสนับสนุนความพยายามของไต้หวัน ในการพัฒนากองทัพให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาขีดความสามารถในการดูแลเสถียรภาพของไต้หวัน พร้อมทั้งเรียกร้องให้จีน ยุติแรงกดดันทางการทหาร การทูต และเศรษฐกิจ ต่อไต้หวัน และหันมาเริ่มการเจรจาแทน
สถานเอกอัครราชทูตจีน ประจำกรุงวอชิงตัน เรียกร้องให้สหรัฐฯ เพิกถอนข้อตกลงดังกล่าว ไม่เช่นนั้นอาจต้องเผชิญมาตรการตอบโต้จากจีน โดยระบุว่า ข้อตกลงนี้ ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ โดยจีนพร้อมใช้มาตรการตอบโต้ที่จำเป็น และตามสมควรต่อสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น
ความเคลื่อนไหวนี้ เกิดขึ้นเพียง 1 เดือนหลังจาก แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เดินทางเยือนไต้หวัน ซึ่งส่งผลให้ความสัมพันธ์ของจีนและไต้หวันตึงเครียดมากยิ่งขึ้น และเกิดขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากกองทัพไต้หวันยิงโดรนของพลเรือนลำหนึ่งตก หลังบินล้ำน่านฟ้าไต้หวัน
อ่านข่าวอื่น ๆ
"โกตาบายา ราจาปักษา" อดีตผู้นำศรีลังกา กลับประเทศแล้ว
"รัสเซีย" ระงับจ่ายก๊าซให้ยุโรปอย่างไม่มีกำหนด หลังพบน้ำมันรั่ว