อ่าวมาหยา ไม่เหมือนเดิม ถ้าคนที่เคยไปอ่าวมาหยาก่อนมีการถ่ายภาพยนตร์ The Beach จะรู้ว่ามันไม่เหมือนเดิม
นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล จ.กระบี่ หนึ่งใน 19 โจทก์ ที่ร่วมฟ้อง เปิดเผยหลังศาลตัดสินคดี The Beach ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ ยืนยันว่าอ่าวมาหยา ในสายตาของเขาไม่เหมือนเดิม
ย้อนกลับไปเมื่อ 23 ปีก่อนที่ภาพยนตร์ The Beach จะเข้ามาขออนุญาตถ่ายทำ อ่าวมาหยา มีความสวยงาม แต่หลังกองถ่ายทำมาลง มีการไถสันทรายชาย หาด 2 ด้านๆ ละ 60 เมตร และมีการขุดหลุมเอาต้นมะพร้าวไปปลูก นำทรายละเอียด บริเวณหน้าหาดเดินแล้วนุ่มเท้ามาโรยไว้
มีการย้ายระบบธรรมชาติ เอาทรายสีขาวไปขุดใส่อีกจุด ทำให้ชายหาดมีสีดำ เคลื่อนย้ายทราย จากฝีมือคนไม่ใช่ฝีมือธรรมชาติ
นายประเสริฐพงษ์ บอกว่า แม้จะยอมรับในคำพิพากษา แต่อยากให้จำเลยที่ 4 และ 5 ควรจะแสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้ ซึ่งจำเลยที่เป็นบริษัทต่างชาติและเป็นบริษัทในไทยประนีประนอมกับโจทก์ที่ 1 และ 2 จ่ายเงินไปแล้ว 10 ล้านบาท ก่อนที่จะมีการพิพากษา
ภาพ : เพจเฟซบุ๊ก Beach for life
เขาบอกว่า เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ศาลเดินเผชิญสืบในคดีนี้ที่อ่าวมาหยา เรื่องนี้ถือว่าเสียโอกาส ผมเป็นโจทก์ที่ฟ้อง รมว.เกษตรฯ อธิบดีกรมป่าไม้ ตอนที่ฟ้องครั้งแรกสภาทนายความแผนกคดีสิ่งแวดล้อมที่มีนายวรินทร์ เทียมจรัส เคยขอให้ไต่สวนฉุกเฉิน และให้ระงับการอนุญาต แต่ศาลไม่ได้พิจารณา และกองถ่ายก็ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ
23 ปีตัดสินและขอให้มีการฟื้นฟู สภาพข้อเท็จจริง ในสายตาผมอ่าวมาหยา ไม่เหมือนเดิม คนไปเที่ยวเกาะพีพีเล ก่อนที่จะมีการถ่ายหนังและหลังถ่ายหนัง ยืนยันว่าอ่าวมาหยา ไม่ได้เหมือนเดิมก่อนที่มีการไถสันทราย
อ่านข่าวเพิ่ม ปิดคดี! ยกฟ้อง The Beach ให้กรมป่าไม้ฟื้นฟู "อ่าวมาหยา"
ภาพ : Sakanan Plathong
เสียโอกาส-ไกล่เกลี่ยยอมความ 10 ล้าน
นายประเสริฐพงษ์ บอกอีกว่า เหตุผลที่คดีนี้เสียโอกาส เพราะเรามีการประนีประนอม ยอมความระหว่างโจทก์ที่ 1 ,2 และจำเลยที่ 4 และ 5 มีการรับเงินนอกงบประมาณ ซึ่งในคำพิพากษาก็เห็นชัด และในช่วงปี 2560-2561 ก็มีการเชิญมาไกล่เกลี่ยกัน
ตอนนั้น ตัวเองเป็น 1 ในโจทก์ที่ยื่นฟ้องยืนยันว่าไม่ยอมไกล่เกลี่ย จะไม่ยอมรับเงินของจำเลย แต่หลังจากนั้นในปี 2562 หมดหน้าที่ เพราะมาสมัครเป็นส.ส. และมีการเจรจากัน และอบต.อ่าวนาง มีการรับเงินจากบริษัท เป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะองค์กรท้องถิ่นมีหน้าที่คุ้มครองดูแลรักษาทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม
เสียดาย ที่ไม่สามารถ นำผู้ที่อนุญาตให้มีการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้มารับโทษตามกฎหมาย เนื่องจากมีการอนุญาตไม่ชอบด้วยกฎหมายตั้งแต่เริ่มต้น ทำให้ธรรมชาติ นิเวศต่างๆอ่าวมาหยา ถูกทำลาย
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีการพิจารณาให้รอบคอบ ก่อนที่จะอนุญาตกระทำการใดๆ ในพื้นที่ทางธรรมชาติ เนื่องจากมีกรณีตัวอย่าง อ่าวมาหยามาแล้วกว่าจะสิ้นสุดคดีต้องให้ระยะเวลา 23 ปี
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง