วันนี้ (18 ก.ย.2565) ตลาดท่าเสด็จ ในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย เป็นอีกหนึ่งสถานที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยว จ.หนองคาย ที่นี่มีสินค้าที่หลากหลายนำเข้าในกลุ่มอินโดจีน ทั้งสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องนุ่งห่มจากจีน ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากไม้ที่มาจากเวียดนาม รวมไปถึงอาหารที่เป็นของฝากอย่างหมูยอ และแหนมเนือง
ในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการ ร้านค้าในตลาดท่าเสด็จได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 แม้ขณะนี้กำลังซื้อเริ่มฟื้น แต่ผู้ประกอบการก็ต้องปรับตัวหันมาขายออนไลน์ควบคู่กับหน้าร้าน
นางจีรนันท์ สกุลตั้งไพศาล ผู้ประกอบการตลาดท่าเสด็จ จ.หนองคาย กล่าวว่า หนองคายเป็นเมืองท่องเที่ยว หากการท่องเที่ยวสะดุด ยอดขายจะหายอย่างชัดเจน ทางร้านปรับตัวด้วยการหาเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย แต่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ไทย รองรับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่นมากขึ้น เช่น ผ้าขาวม้า ที่เป็นเอกลักษณ์ไทย ก็นำมาทำหมวก
เช่นเดียวกับโรงแรมที่พักและร้านอาหาร ตลอดแนวริมแม่น้ำโขง ต่างพยายามสร้างจุดขายของแต่ละร้าน เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาไม่ว่าจะเป็นเมนูอาหาร เครื่องดื่มที่เป็นอัตลักษณ์ หรือว่า ซิกเนเจอร์ของทางร้าน
แต่ภาพรวมขณะนี้จะยังไม่เห็นการลงทุนใหม่ ๆ ของกลุ่มผู้ประกอบการ เพราะกำลังซื้อในขณะนี้มีเพียงชาวไทยและชาวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวหนองคาย ส่วนชาวลาวก็ยังเดินทางไม่มาก
นายสฤษดฏ์พณธ์ วิชิตวงศ์ ประธานนักธุรกิจรุ่นใหม่ หอการค้าจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า ด้วยภาวะปัจจุบันตลาดผ้า หรือตลาดที่เป็นอุปกรณ์ใช้ส่วนตัว สามารถหาซื้อได้ในโลกออนไลน์ ฉะนั้นคู่แข่งจึงไม่ได้มีเพียงในตลาดเท่านั้น จึงต้องปรับตัวในการทำการตลาด
นักธุรกิจรุ่นใหม่ใน จ.หนองคาย ยังมองว่าธุรกิจที่น่าลงทุนใน จ.หนองคาย และในลาว คือ ด้านการท่องเที่ยว อย่างเช่นการทำบริษัททัวร์ ทำอย่างไรจะให้นักท่องเที่ยวแวะพักค้างคืนในไทย 1 คืน ก่อนจะข้ามไปเที่ยวในฝั่งลาว
รวมไปถึงธุรกิจบริการและการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและสุขภาพ ซึ่ง จ.หนองคาย มีจุดแข็งที่มีเกษตรริมโขง และเกษตรปลอดภัย หากจีนเปิดประเทศให้ผู้โดยสารเดินทางข้าม คาดว่าหนองคายก็จะได้รับอานิสงส์จากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้