กรณีปัญหาประชาชนตกเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่ โดยอ้างลงทุนซื้อขายเงินตราต่างประเทศ หรือเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยน (ฟอเร็กซ์) ทำให้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ยอมรับว่ากฎหมายที่มีอยู่ อาจมีช่องว่างให้เกิดปัญหาการหลอกลงทุนดังกล่าว จึงจะหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทบทวนปรับปรุงกฎหมายให้เกิดความรัดกุม ลดความเสี่ยงดังกล่าว
ขณะที่นางอลิศรา มหาสันทนะ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธปท. ชี้แจงว่า การให้บริการลงทุนซื้อขายเงินตราต่างประเทศบนแพลตฟอร์ม หรือการเทรดฟอเร็กซ์ในไทย ยังไม่มีผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจดังกล่าว
หากประกอบธุรกิจหรือมีส่วนร่วมกับธุรกรรมฟอเร็กซ์โดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน ตลอดจนการเชิญชวนให้ประชาชนเข้ามาเก็งกำไร มีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน เช่น กรณีคดี Forex-3D ซึ่งเป็นความผิดทั้งคดีฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
ทั้งนี้แม้ ธปท.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทางข้อกฎหมาย กำกับดูแล ธุรกรรมลงทุนฟอเร็กซ์ แต่ได้ให้ความร่วมมือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สนับสนุนการดำเนินคดีดังกล่าวอย่างเต็มที่
ธปท.ย้ำเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อการชักชวนลงทุนซื้อขายเงินตราต่างประเทศ เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ หรือโทรศัพท์สอบถามรายชื่อผู้ได้รับใบอนุญาต ภายใต้กำกับดูแลของ ธปท. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 356 7799 หรือศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงินโทร 1213
ขณะที่ ก.ล.ต.รวบรวมรายชื่อตราสินค้าและเว็บไซต์ที่อ้างลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลและฟอเร็กซ์ ซึ่งอาจเข้าข่ายหลอกลงทุนแชร์ลูกโซ่มากกว่า 400 แห่ง
อ่านข่าวอื่นๆ
6 สายการบินจับมือลดราคากระตุ้นท่องเที่ยวปลายปี
เดือนเดียว "ศุลกากร" จับหมูเถื่อนแช่แข็ง 35,000 กก.
ใช้ไฟฟ้าเท่าไหร่ได้ส่วนลด "กฟน. - กฟภ." เปิดเงื่อนไข "ลดค่า Ft"