วันนี้ (20 ก.ย.2565) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าพบนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนาการ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เพื่อหารือความร่วมมือระหว่างจังหวัดข้างเคียง และประสานงานอย่างไร้รอยต่อ โดยเฉพาะประเด็นการบริหารจัดการน้ำ พร้อมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ระบุว่า หากมีการหารือที่ดีจะทำให้การทำงานง่ายขึ้น และลดผลกระทบต่อประชาชนได้
กังวลว่าเดือน ต.ค.ฝนจะหนักอีก จึงต้องเตรียมรับมือ ประตูน้ำต่าง ๆ ต้องเตรียมให้พร้อม ปีนี้น้ำเยอะ แต่เชื่อว่าจะค่อย ๆ บรรเทาลงไป
อีกประเด็นที่มีการหารือกัน คือ ฝุ่น PM2.5 เนื่องจากบางเขต เช่น หนองจอก และมีนบุรี ยังมีการทำเกษตรกรรมอยู่ ดังนั้น การทำชีวมวลอย่างถูกวิธีจะช่วยแก้ปัญหาได้ ซึ่งผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ แนะนำให้ใช้ไม้แข็ง หากเผาก็ต้องจับส่งศาล ไม่ปรับมาก แต่ลงโทษให้เป็นเยี่ยงอย่าง รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรมก็ต้องมีการปรับคุณภาพเป็นระดับ 5 เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งต้องดำเนินการร่วมกันทั้ง 2 พื้นที่ เพราะฝุ่นจากปทุมธานี ก็อาจจะไปถึง กทม.ด้วย
ไม่เห็นดรามา เน้นประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก ส่วนเรื่องน้ำ มีน้ำจากนครนายกจำนวนมาก ตัวแปรสำคัญคือ คลองรังสิตที่เป็นตัวตัดน้ำ หากตัดได้เยอะก็จะสบายทั้ง 2 จังหวัด
นายชัชชาติ ยังระบุอีกว่า ในส่วนของ กทม.ทั้งปีถึงวันนี้ ฝนตกมา 1,642 มิลลิเมตร ขณะตัวเลขเฉลี่ยทั้งปีตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ฝนตกทั้งปี 1,690 มิลลิเมตร สะท้อนให้เห็นว่าอีกไม่กี่วันปริมาณฝนจะเกินค่าเฉลี่ยทั้งปีแล้ว ซึ่งถือเป็นผลจากภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง แม้ตัวเลขจะชัดเจนแต่ก็ไม่ได้นำมาเป็นข้อแก้ตัวใด ๆ และพร้อมจะดำเนินการเพื่อเตรียมรับมือน้ำในช่วงเดือน ต.ค.นี้
ด้าน นายณรงค์ศักดิ์ ระบุว่า ขณะนี้เป็นนิมิตหมายอันดีที่ไม่ได้มองปัญหาแบบเดิม ๆ มอง กทม.เป็นท้องถิ่น มองจังหวัดเป็นภูมิภาค แต่ช่วยกันแก้ไขปัญหา เนื่องจากมีความกังวลตรงกัน โดยเฉพาะน้ำทะเลหนุนสูง ขณะเดียวกันทุกปีจะมีพายุเข้าไทย 2 ลูก แต่ปีนี้ยังไม่เข้า
กังวลว่าเดือน ต.ค.จะมีพายุเข้ามา ทำให้ต้องเตรียมตัวดูแลการผันน้ำ ส่งน้ำ ช่วยกันบริหารจัดการงาน เมื่อหัวคุยกันเรียบร้อย ลูกทีมก็จะช่วยกันในระดับปฏิบัติงานได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน มีฝนตกในพื้นที่ 142 มิลลิเมตร ใน 24 ชั่วโมง ตามด้วยกว่า 50 มิลลิเมตร ปริมาณน้ำที่ตกมากกว่ากว๊านพะเยา 1 กว๊าน ซึ่งเครื่องสูบน้ำ 20 เครื่อง ใช้ได้เพียง 11 เครื่อง ทั้งยังมีน้ำจากแม่น้ำนครนายกอีก จึงต้องเร่งพร่องน้ำและเพิ่มระบบสูบน้ำเข้าไปอีกเพื่อระบายน้ำ
ตอนนี้ก็พร่องน้ำเต็มที่ เผื่อเหตุการณ์ในเดือน ต.ค. หากไม่มาตามนัดก็ดี แต่ถ้ามีก็พยายามเตรียมพร้อมให้ได้มากที่สุด
นอกจากปัญหาการบริหารจัดการน้ำและฝุ่น PM2.5 แล้ว ผู้ว่าฯ ชัชชาติ และผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ ยังได้หารือกันเพื่อแก้ไขปัญหารถติด โดยประสานเรื่องการควบคุมจราจรให้สอดคล้องกัน ตลอดจนการดำเนินการเรื่องผังเมืองเพื่อพัฒนาเมืองอย่างไร้รอยต่อ และเร่งรัดการก่อสร้างถนนให้แล้วเสร็จ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนทั้งสองพื้นที่อีกด้วย