วันนี้ (25 ก.ย.2565) นายศุภกร อินทรประสิทธิ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าวังโป่ง-ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนหน่วยพิทักษ์ป่าน้ำจาง เดินลาดตระเวนเชิงคุณภาพ พบ "ปูเจ้าพ่อหลวง" สัตว์ป่าหายากใกล้สูญพันธุ์
จากการตรวจสอบข้อมูลทางวิชาการ พบว่าปูชนิดนี้เป็นปูน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก เป็นชนิดพันธุ์เฉพาะถิ่นของไทย พบเฉพาะที่ จ.เลย และบริเวณรอยต่อระหว่างจ.เพชรบูรณ์และชัยภูมิ
ก่อนหน้านี้มีรายงานพบครั้งแรกที่ภูหลวง จ.เลย เมื่อปี 2519 โดยในสมัยนั้น วันที่ 5 ม.ค.2543) ได้รับพระบรมราชานุญาตอัญเชิญพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นนามปูน้ำจืดชนิดใหม่ของโลก
ลักษณะเด่นของปูเจ้าพ่อหลวงมี 3 สี คือ สีน้ำตาลเข้ม สีม่วง และสีส้ม โดยกระดองจะเป็นสีน้ำตาลเข้ม ขาเดิน 4 คู่ และขาก้ามทั้งสองข้างเป็นสีน้ำตาลเข้ม ยกเว้นด้านในของก้ามหนีบอันล่างเป็นสีม่วง และปลายก้ามหนีบทั้งสองข้างเป็นสีส้ม และจากการสังเกตุของเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนพบว่า รอยบริเวณหลังกระดองปูเจ้าพ่อหลวง ลักษณะคล้ายรูป "ครุฑ"
ภาพ:ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
เสี่ยงสูญพันธุ์ถูกจับกิน-พบในถิ่นอาศัยใหม่
ปูเจ้าพ่อหลวง อาศัยอยู่ตามลำธารที่ค่อนข้างสะอาดในป่า ตามใต้ก้อนหิน หรือขุดรูอยู่ตามรากไม้ในลำธารสาขา มีสถานภาพใกล้สูญพันธุ์ เนื่องจากถูกนำมาบริโภคมากเกินไป ปัญหามลพิษทางน้ำจากการใช้สารเคมีทางการเกษตร และมีการท่องเที่ยวที่ส่งเสริมการบริโภคปูในช่วงที่ปูมีการสะสมไขมัน
เนื่องจากปูจำเป็นต้องอาศัยก้อนหินในแหล่งน้ำ เป็นที่หลบภัยและอยู่อาศัย การสร้างฝายที่ทำให้ลำธารตื้นเขิน เกิดการสะสมของตะกอน ยังเป็นการทำลายถิ่นที่อยู่อาศัยของปูและสัตว์น้ำอื่นๆอย่างคาดไม่ถึง ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีแนวทางในการคุ้มครองปูเจ้าพ่อหลวง รวมถึงถิ่นที่อยู่อาศัยอย่างเป็นรูปธรรม
ภาพ:ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
ดังนั้น การพบปูเจ้าพ่อหลวงในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าวังโป่ง-ชนแดน ในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 จากเดือน ก.ย.2564 โดยนายธนิต นุ่นลอย อดีตหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าวังโป่ง-ชนแดน ในสมัยนั้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับปัจจุบัน
ตามภาพสันนิษฐานได้ว่าในช่วงเดือนก.ย. เป็นช่วงฤดูผสมพันธุ์ของปูเจ้าพ่อหลวง และเป็นการยืนยันรายงานการพบปูเจ้าพ่อหลวง ในถิ่นอาศัยแห่งใหม่ในประเทศไทย