เมื่อวันที่ 24 ก.ย.2565 สำนักข่าวต่างประเทศ DW ได้รายงานว่า ชายชาวรัสเซียหลายพันคน กำลังพยายามหนีออกนอกประเทศ เพราะพวกเขากลัวจะถูกเรียกตัวและส่งไปสู้รบในยูเครน ในขณะที่ กระทรวงกลาโหมของรัสเซีย อ้างว่าจะเรียกเฉพาะทหารที่อายุไม่เกิน 55 ปี มีประสบการณ์ด้านการทหาร เพียง 300,000 คน เท่านั้น
แต่อย่างไรก็ตาม สื่อของรัสเซียได้รายงานว่า มีผู้สูงอายุและชายที่ไม่ได้ฝึกทหาร ถูกเรียกตัวเช่นกัน สื่อออนไลน์ของ Novaya Gazeta Europe ได้รายงานว่ารัฐบาลรัสเซีย มีแผนที่จะเกณฑ์ทหารมากถึง 1 ล้านคน เพื่อรับใช้ในกองทัพ
พวกเขาสามารถจับใครก็ได้ ถ้าพวกเขาต้องการจริงๆ
พวกเราพยายามปฏิเสธที่จะต่อสู้ เพราะเราไม่เข้าใจจุดประสงค์ของสิ่งที่เรียกว่า "ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ" ของรัสเซีย ชายวัย 28 ปี ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว DW
พวกเขาบอกว่ามันคือหน้าที่ แต่คือหน้าที่อะไร ฉันจะเข้าใจถ้าประเทศของเราถูกโจมตี แต่ตอนนี้เรากำลังจะโจมตีเพื่อนบ้านของเรา
ชายชาวรัสเซียคนอื่นกล่าวเพิ่มเติม มีชายชาวรัสเซียอีกหลายคนมีที่ตัดสินใจออกจากประเทศอย่างรวดเร็ว ผู้ที่ไม่มีวีซ่า จะขับรถไปยัง จอร์เจีย คาซัคสถาน และมองโกเลีย มีรายงานบนสื่อสังคมออนไลน์ว่า ที่จุดผ่านแดนต่างๆ มีรถยนต์จอดเรียงรายมีความยาวหลายกิโลเมตร คนที่มีเงิน ก็จะบินออกนอกประเทศมุ่งหน้าไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตุรกี เซอร์เบียและฟินแลนด์
ออกจากรัสเซียด้วยหัวใจที่หนักหน่วง
วิศวกรชายวัย 34 ปีคนหนึ่ง จากเมือง Krasnodar ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของรัสเซีย บอกกับ สำนักข่าว DW ว่าเขาเคยรับราชการเป็นทหารรัสเซียมาก่อน ซึ่งมันอาจจะทำให้เขามีแนวโน้มที่จะถูกเรียกตัวได้ เขาเคยมีความคิดที่จะออกจากรัสเซียมานานแล้ว และการประกาศระดมพลบางส่วนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทำให้เขาตัดสินใจได้ทันที
ฉันจะไม่จากรัสเซียไปตลอดกาล ฉันรักรัสเซีย และจะกลับมาในวันหนึ่งอย่างแน่นอน
พ่อค้าออนไลน์คนหนึ่งกล่าวเพิ่มเติมว่า เขาไม่ต้องการจากรัสเซียไป แต่ตั้งแต่เกิดสงครามขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทำให้เขาตระหนักว่าสิ่งต่างๆ กำลังไปในทิศทางที่แย่
“เราทุกคนเข้าใจดีว่าสิ่งทั้งปวงนี้จะนำไปสู่สิ่งที่ไม่ดี”
ชายวัย 43 ปี อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของรัสเซีย ได้อพยพออกจากรัสเซียเมื่อไม่นานมานี้ เขาเคยเป็นวิศวกรและเคยรับราชการในกองทัพ เมื่อเกิดสงครามขึ้นเขาถูกเรียกตัวหลายครั้งจากเขตทหารในท้องที่ของเขา แต่เขาไม่เคยตอบรับเลย เมื่อ ปูติน ประกาศระดมพลเขาตัดสินใจเก็บกระเป๋าและขับรถไปฟินแลนด์ที่ทันที
“ผมเป็นเจ้าหน้าที่กองหนุนชั้นหนึ่งก็จริง แต่ผมไม่ต้องการถูกตัดสินว่าจะต้องเข้าคุกหรือเป็นที่ฆาตกร” เขากล่าว
เรามันก็แค่อาหารสัตว์
อย่างไรก็ตาม หลายรัฐในยุโรปได้ปิดพรมแดนระหว่างรัสเซียหรือจำกัดการเข้าประเทศ
Edgars Rinkevics รัฐมนตรีต่างประเทศลัตเวีย ได้ชี้แจงว่า ประเทศของเขาจะไม่รับและไม่ให้การช่วยเหลือประชาชนรัสเซียที่เดินทางออกจากรัสเซีย โดยอ้างถึงความกังวลด้านความมั่นคงของชาติ
นายกรัฐมนตรีเอสโตเนีย Kaja Kallas กล่าวว่าประเทศของเขาไม่อนุญาตให้ชาวรัสเซียที่หลบหนีออกจากประเทศเข้ามาในเอสโตเนีย และได้เรียกร้องให้รัสเซียเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง
ลิทัวเนีย และ สาธารณรัฐเช็ก ก็แสดงจุดยืนที่จะไม่เสนอสถานะลี้ภัยให้กับชาวรัสเซียที่หลบหนีเข้ามา
ฟินแลนด์กำลังพิจารณาห้ามไม่ให้ชาวรัสเซียเดินทางข้ามประเทศ
นักเคลื่อนไหวทางการเมืองชาวรัสเซียคนหนึ่ง ได้วิพากษ์วิจารณ์ข้อจำกัดเหล่านี้ เขากล่าวว่า รัฐบาลต่างๆ ในยุโรปตะวันออกกำลังเผชิญกับแรงกดดันจากประชานิยมฝ่ายขวา
ยิ่งช่องว่างระหว่างเรากว้างขึ้นเท่าไร เราทุกคนก็จะรวมกันได้ยากขึ้นเท่านั้น
ในขณะที่ Michail Bayankin กล่าวว่ารัฐบาลรัสเซียไม่ให้ความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์
“พวกเขาบอกเราว่ากำลังมุ่งไปข้างหน้า แต่พวกเขาไม่สนใจว่าเราจะกลับคืนมาได้หรือไม่ สำหรับพวกเขา เราเป็นแค่อาหารสัตว์ขนาดใหญ่”
ที่มา : www.dw.com