วันนี้ (29 ก.ย.2565) นายไพรวัลย์ วรรณบุตร หรือ แพรรี่ พร้อมนายเกิดผล แก้วกำเนิด ทนายความ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมป์ ให้สอบสวนมรรยาททนายความต่อนายธรรมราช ทนายความ เจ้าของบัญชีเพจเฟซบุ๊ก ชื่อบัญชี The lawyer of ligality
หลังเกิดการตอบโต้ในประเด็นสังคมผ่านสื่อออนไลน์แล้ว นายธรรมราช โพสต์ข้อความและถ่ายทดสด โดยการใช้ถ้อยคำในลักษณะดูหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และเหยียดหยามเพศภาพ
นายไพรวัลย์ เปิดเผยภายหลังกรณีของตัวเองกับพระชาตรี จบลง นายธรรมราชได้นำประเด็นข้อโต้งแย้งที่มีไปแจ้งความโดยกล่าวหาว่า ตัวเองดูหมิ่นพระชาตรีและคณะสงฆ์ ซึ่งนายธรรมราช ได้โพสต์ข้อความ และถ่ายทอดสด เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยถ้อยคำที่กล่าวพาดพิงเสียดสี ทั้งเรื่องหาเงินไปซื้อวิกผมและเหยียดหยามเรื่องเพศสภาพ แม้จะไม่ได้ระบุชื่อตัวเอง แต่ฟังแล้วเข้าใจได้ว่าหมายถึงใคร ซึ่งส่วนตัวเห็นว่า ถูกดูหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งทุกคนควรเคารพผู้อื่น ซึ่งนอกจากร้องให้สอบสวนมรรยาททนายความแล้ว ยังได้ดำเนินคดีทางอาญาไว้ด้วย
ส่วนนายเกิดผล ระบุว่า ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับการดูหมิ่นคณะสงฆ์ หลังมีประเด็นระหว่างแพรรี่กับนายธรรมราช หลังจากนั้น นายธรรมราชได้โพสต์ตอบโต้กลับ ซึ่งได้ใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสม โดยใช้อาการเจ็บป่วยของตัวเองมาเกี่ยวข้อง ซึ่งถือเป็นการกล่าวเสียดสี เหยียดหยามและซ้ำเติม และไม่ได้มีท่าทีสำนึกต่อการกระทำเพราะพบว่า ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยกล่าวพาดพิงซ้ำอีก
ขณะที่นายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมถ์ กล่าวว่า หลังรับเรื่องร้องเรียนของทั้ง 2 คนแล้ว จะส่งต่อกรรมการมรรยาททนาย ให้พิจารณาเรื่องเข้าสู่กระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยปกติไม่มีกำหนดระยะเวลา แต่ในทางปฏิบัติหากเป็นกรณีกระแสสังคม จะเร่งดำเนินการโดยเร็ว หลังเรียกทนายความผู้ถูกร้องเข้าให้ข้อมูล จะต้องมาพบภายใน 30 วัน สามารถเลื่อนได้แต่ต้องมีเหตุสมควร
ส่วนโทษทางวินัย มีหลายระดับ ตั้งแต่ตักเตือน, พักใบอนุญาตสูงสุด 3 ปี และโทษร้ายแรงที่สุดคือ ลบชื่อออกจากสภาทนายความฯ
นอกจากนี้ นายกสภาทนายความ ระบุว่า ทนายความสามารถแสดงความคิดเห็นประเด็นทางสังคมได้แต่จะต้องคำนึงถึงความหมิ่นเหม่หรือสุ่มเสี่ยงผิดข้อบังคับ ตามระเบียบของสภาทนายความ และต้องตระหนักถึงความรับผิดชอบหากเป็นความผิด พร้อมยอมรับว่า กฎระเบียบของสภาทนายความที่มีมาตั้งแต่ปี 2529 จะต้องมีการพัฒนาปรับปรุงเชิงรุกเพื่อปรับมาตรฐาน มรรยาททนายให้เหมาะสมกับยุคสมัย