เนิ่นนานแล้วที่นายเนวิน ชิดชอบ ทายาทคนสำคัญจากตระกูลชิดชอบ ห่างหายไปจากแวดวงการเมือง ไปคลุกคลีอยู่กับแวดวงการกีฬา ทั้งสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เขาเป็นประธานบริหาร และสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ที่เขานั่งเป็นประธานเช่นกัน
ก่อนที่วันที่ 4 ตุลาคม 2565 เขาปรากฏตัว ท่ามกลางสื่อและนักการเมืองเนื่องในวันคล้ายวันเกิดปีที่ 64 ที่สวนศิวลึงค์ ปราสาทสายฟ้า จ.บุรีรัมย์
แม้เจ้าตัวยังคงสงวนท่าทีกับสื่อ และปฏิเสธจะพูดเรื่องการเมือง ตามที่เขาได้ประกาศวางมือทางการเมืองตั้งแต่ ปี 2555 ผลพวงจากพรรคพลังประชาชนถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค เมื่อปี 2551
ก่อนที่เขาและพลพรรค “เพื่อนเนวิน” จะปฏิเสธที่จะย้ายไปร่วมกับพรรคเพื่อไทย เหมือนส.ส.ส่วนใหญ่ของพรรคพลังประชาชน ในขณะนั้น แต่เปลี่ยนไปฟื้นฟูพรรคภูมิใจไทยเป็นบ้านหลังใหม่แทน
พร้อมกับวลีเด็ดที่คอการเมืองยังจดจำได้ถึงขณะนี้ คือ “จบแล้วครับนาย”
การเปลี่ยนขั้วครั้งนั้น ทำให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน ได้รับเสียงสนับสนุนในสภาฯให้กลับไปเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำรัฐบาลคนใหม่แทน ภายใต้การหนุนช่วยเต็มที่ของพรรคภูมิใจไทย ที่ได้คุมกระทรวงใหญ่ๆ ในรัฐบาลเป็นรางวัลตอบแทน
แต่สำหรับนายเนวิน ลือกันสนั่นวงในว่า ทำให้ผู้มีอำนาจเก่าไม่พอใจอย่างยิ่ง ทั้งที่เคยให้ความไว้เนื้อเชื่อใจเสมอมา
จากนั้นนายเนวินก็ไม่เคยมีภาพปรากฏว่า เกี่ยวข้องกับการเมืองอีกเลย ไม่ว่าจะระดับชาติ ท้องถิ่น หรือแม้แต่ในพรรคภูมิใจไทย ที่มีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ผู้เป็นน้องชาย นั่งเป็นเลขาธิการพรรค แม้หลายคนจะเชื่อว่า ในทางปฏิบัติจริง เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่ข้องแวะใด ๆ กับเรื่องการเมือง
การมีภาพข่าวอยู่ท่ามกลางรายล้อมนักการเมือง ทั้งระดับชาติและท้องถิ่นครั้งนี้ จึงอาจจะมีนัยและส่งผลทางการเมืองได้เช่นเดียวกัน คล้ายกับกรณีคุณหญิงอ้อ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คนหนึ่งของไทย ไปปรากฏตัวและให้กำลังใจลูกสาว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในงานสะบัดชัยเพื่อไทยไปเหนือ เมื่อ 10 ก.ย.2565
ส่งผลให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทย เชื่อมั่นและฮึกเหิมพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งหน้า เช่นเดียวกับความเชื่อมั่นฮึกเหิมที่จะเกิดขึ้นกับว่าที่ผู้สมัครและกองเชียร์พรรคภูมิใจไทย ว่าจะไม่โดดเดี่ยวหรือถูกทอดทิ้งแน่นอน
ในช่วงจังหวะเวลาที่พรรคภูมิใจไทย กำลังขยับขับเคลื่อน หวังปักธง ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งหน้าเพิ่มเติมเป็นเท่าตัว ทั้งในสนามเลือกตั้งภาคอีสาน ภาคใต้ และภาคกลาง-ตะวันออก
เป็นตัวช่วยจากแค่นายเนวินไปปรากฏกายเท่านั้น
ประจักษ์ มะวงศ์สา รายงาน