วันนี้ (12 ต.ค.2565) เป็นวันที่ 3 แล้ว ที่ทหารโรงเรียนจิตอาสาพระราชทาน และกรมเจ้าท่า ร่วมกันลำเลียงวัสดุอุปกรณ์ และถุงบิ๊กแบ๊ก ขนส่งทางเรือ เข้าไปอุดช่องโหว่ปิดการไหลของน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไม่ให้เข้าสู่ชุมชน
รวมถึงซ่อมแซมบริเวณถนนป้องกันริมตลิ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในหมู่ที่ 8 ต.บ้านหม้อ อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี หลังจากเกิดทรุดตัวลงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จนทำให้มวลน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนจำนวน 6 หมู่บ้าน ได้รับผลกระทบกว่า 1,600 หลังคาเรือน ขณะนี้ระดับน้ำในชุมชนมีความสูงเกือบ 2 ม.
นายทวีป ผูกโพธิ์ นายก อบต.บ้านหม้อ ระบุว่า วันนี้ต้องเร่งอุดช่องโหว่ในตำแหน่งที่ถนนป้องกัน ริมตลิ่ง ริมเขื่อนเจ้าพระยาทรุดตัวลง ดำเนินการให้แล้วเสร็จ
รวมถึงให้ชาวบ้านในพื้นที่แต่ละหมู่บ้าน เร่งเสริมกระสอบทรายทำคันดินล้อมรอบน้ำให้สูงกว่าระดับน้ำที่ท่วมขังความยาว 6 กม.
ทั้งนี้ ถือว่าเป็นการทำงานที่ค่อนข้างยากลำบากเพราะบางหมู่บ้านไม่มีวัสดุอุปกรณ์ที่มีความพร้อมมากนัก ทำให้ต้องใช้กำลังแรงคนในการเคลื่อนย้ายแทน เพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงตามเป้าหมาย ก่อนจะดำเนินการสูบน้ำที่ท่วมขังลงสู่คลองชลประทาน เพื่อกู้พื้นที่ตำบลนี้และบรรเทาความเดือดร้อนในชุมชน
ส่วนอีกจุด คือ ที่ ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี เกิดเหตุคันกั้นน้ำซึ่งห่างจากสถานีสูบน้ำบางโฉมศรีประมาณ 1 กม.ขาดเป็นระยะทางประมาณ 100 ม.ทำให้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนอยู่แล้ว ไหลบ่าทะลักข้ามคลอง เข้าท่วมพื้นที่เกษตรของชาวบ้านที่อยู่ใน ต.ชีน้ำร้ายหลายพันไร่ และกำลังจะไหลเข้าพื้นที่ ต.ท่างาม ต.ทองเอน อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี หากคุมสถานการณ์ไม่ได้น้ำก็จะไหลเข้า ต.ท่าโขลง อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี
นายสุพจน์ ยศสิงห์คำ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ลงตรวจสอบในพื้นที่ บอกว่า เนื่องจากน้ำท่วมนานจนทำให้ดินนิ่ม จึงได้สั่งให้กรมชลประทาน นำเครื่องจักรหนัก ลงพื้นที่โดยการตอกเสาเข็ม เพื่อทำการหย่อนบิ๊กแบ๊กต่อไป