วันนี้ (2 พ.ย.2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกรณีเด็กในมูลนิธิคุ้มครองเด็กแห่งหนึ่ง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ถูกทำร้ายร่างกายและใช้แรงงาน เบื้องต้นพิจารณาถอดใบอนุญาตตั้งสถานรับเลี้ยงเด็ก และดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ
เหตุการณ์ที่นำไปสู่การตรวจสอบในครั้งนี้ เป็นคลิปวิดีโอที่เกิดขึ้นช่วงเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเด็กในมูลนิธิคุ้มครองเด็กแห่งหนึ่ง อ.อัมพวา ได้แอบบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ โดยเป็นภาพเด็กยืนเรียงแถวต่อคิวเข้ารับโทษ ซึ่งเจ้าของมูลนิธิหรือผู้ที่เด็กเรียกว่า "พ่อ" เป็นผู้ใช้ท่อเหล็กฟาดทำร้ายคนละหลายครั้ง
สอดคล้องกับคำบอกเล่าของนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งที่เข้าทำกิจกรรมอาสากับเด็กในมูลนิธิ เมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา ให้ข้อมูลที่มีเนื้อหาสำคัญ ระบุว่า เด็ก ๆ ถูกทำร้าย ถูกใช้แรงงานให้ทำงานในรีสอร์ตของเจ้าของมูลนิธิฯ
ขณะที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิเส้นด้ายผู้รับเรื่องร้องเรียน เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภายในของมูลนิธิคุ้มครองเด็กดังกล่าว พบว่านอกจากพฤติกรรมของเจ้าของมูลนิธิฯ ที่กระทำต่อเด็กแล้ว สถานที่ภายในก็ไม่ได้มาตรฐานที่มีสุขอนามัยที่ดีต่อเด็ก
ขณะที่นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ระบุว่า หลังทราบเรื่องในวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงที่มูลนิธิฯ รวมถึงสอบถามกับเด็กในวันที่ 29 ต.ค. จากนั้นวันที่ 30 ต.ค. ได้เข้าช่วยเหลือเด็กออกมาจำนวน 8 คน ยังเหลือเด็กที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิฯ อีก 55 คน ซึ่งจะเร่งช่วยเหลือเพิ่มเติม พร้อมทั้งเร่งพิจารณาถอดใบอนุญาตตั้งสถานรับเลี้ยงเด็ก
ด้านนายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม ระบุถึงการดำเนินคดีว่า ขณะนี้อยู่ในความดูแลของ สภ.เมืองอัมพวา เบื้องต้นได้ร้องทุกข์กล่าวโทษกับผู้ก่อเหตุในความผิด ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ตามมาตรา 61 คือ ห้ามมิให้เจ้าของ ผู้ปกครองสวัสดิภาพ และผู้ปฏิบัติงานในสถานรับเลี้ยงเด็กสถานแรกรับ สถานสงเคราะห์ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ และสถานพัฒนาและฟื้นฟู ทำร้ายร่างกายหรือจิตใจ กักขัง ทอดทิ้ง หรือลงโทษเด็กที่อยู่ในความปกครองดูแลโดยวิธีการรุนแรงประการอื่น เว้นแต่กระทำเท่าที่สมควรเพื่ออบรมสั่งสอนตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด และพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างพิจารณาพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อดำเนินคดีอาญาในข้อหาทำร้ายและความผิดที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ
รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวถึงกระบวนการต่อใบอนุญาตสถานรับเลี้ยงด้วยว่าจะมีการพิจารณาต่อใบอนุญาตรายปีและเข้าตรวจสอบความเป็นอยู่ในสถานรับเลี้ยง ทุก 6 เดือน โดยยืนยันว่าการตรวจสอบเป็นไปแบบสุ่ม ไม่แจ้งล่วงหน้า และมีการสุ่มพูดคุยสอบถามความเป็นอยู่จากเด็ก ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยได้รับเรื่องร้องเรียนการถูกทำร้ายหรือบังคับใช้แรงงาน แต่ยอมรับว่าการตรวจสอบอาจไม่ได้เป็นไปโดยละเอียด เพราะมูลนิธิแห่งนี้เปิดมานาน และเจ้าหน้าที่มีความเชื่อใจตัวเจ้าของมูลนิธิฯ