เมื่อวันที่ 9 พ.ย.2565 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขึ้นเวทีประกาศความสำเร็จของบรรดาผู้สมัครรับเลือกตั้งที่เขาให้การสนับสนุน หลังปิดคูหาเลือกตั้งกลางเทอม และทยอยเห็นคะแนนในแต่ละพื้นที่
สำหรับสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ที่ประชาชนได้เลือก ส.ส.ใหม่หมด 435 ที่นั่ง มีแนวโน้มสูงที่รีพับลิกันจะชนะ แม้ว่าการนับคะแนนจะยังไม่เสร็จสิ้น โดย Edison Research คาดการณ์ว่า รีพับลิกันจะได้เก้าอี้ ส.ส.เพิ่ม 5 ที่นั่ง เท่ากับว่าจะได้ที่นั่งเกินกึ่งหนึ่ง
ส่วนที่วุฒิสภา ปรากฎว่าคะแนน 2 พรรคคู่คี่สูสีกันอย่างมาก โดยจะมี 3 รัฐที่เป็นตัวตัดสินชี้ขาดว่ารีพับลิกันจะได้ครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรสหรือไม่ คือ รัฐจอร์เจีย รัฐแอริโซนา และรัฐเนวาดา
ผลการเลือกตั้งในรัฐจอร์เจีย จะทราบได้หลังวันที่ 6 ธ.ค. เนื่องจากกฎการเลือกตั้งของรัฐนี้ผู้สมัครต้องได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งถึงจะชนะได้ และผลเลือกตั้งขณะนี้ยังไม่มีผู้สมัคร ส.ว. ได้คะแนนเกินครึ่ง จึงต้องมีการเลือกตั้งรอบตัดเชือก แต่ผลว่าใครจะครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา อาจไม่ต้องรอรัฐจากจอร์เจีย เพราะจากคะแนนในขณะนี้ได้ 48 ที่นั่งไปทั้ง 2 พรรค ขาดอีกเพียง 2-3 ที่นั่ง
สื่อหลายสำนักมองว่า ผลคะแนนที่ไม่ได้สะท้อนความเหนื่อยหน่ายในตัวโจ ไบเดน และเดโมแครตมากขนาดนั้น และรีพับลิกันไม่ได้รับคะแนนเสียงมากเท่าที่คาดไว้ เป็นเพราะผู้มีสิทธิเลือกตั้งอาจให้ความสำคัญกับหลายประเด็นที่เป็นที่ถกเถียงและสร้างความแตกแยกในสังคมมากกว่าที่คิด
ขณะที่ผลสำรวจหน้าคูหา ชาวอเมริกันสนใจเรื่องใดที่เป็นปัจจัยในการตัดสินใจเลือกผู้สมัคร พบว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 32% บอกว่าเป็นเรื่องเงินเฟ้อ, 27% เรื่องการทำแท้ง, 12% เรื่องนโยบายควบคุมอาวุธปืน, 12% อาชญากรรม และอีก 10% เรื่องผู้อพยพ
ขณะที่การเลือกตั้งที่เพิ่งผ่านไป อาจสะท้อนอย่างหนึ่งที่สำคัญคือ โดนัลด์ ทรัมป์ อาจมีคู่แข่งตัวฉกาจ เพราะผู้ว่าการรัฐฟลอริดาที่ได้รับเลือกด้วยคะแนนท่วมท้นอีกสมัย อาจกลายเป็นบุคคลสำคัญที่เข้ามาชิงตำแหน่งตัวแทนพรรครีพับลิกัน ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2024
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สหรัฐฯ เลือกตั้งกลางเทอม "ไบเดน" ชี้มีประชาธิปไตยเป็นเดิมพัน