สหรัฐฯ ยืนยันหนุน "ยูเครน" แม้รีพับลิกันมีชัยเลือกตั้งกลางเทอม

แม้การเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ จะเกี่ยวข้องกับประเด็นภายในประเทศเป็นหลัก แต่การเปลี่ยนขั้วอำนาจในฝ่ายนิติบัญญัติย่อมส่งผลกระทบต่อสงครามยูเครนอย่างเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากการสนับสนุนยูเครนในด้านต่างๆ จำเป็นต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสด้วย

หาก "พรรครีพับลิกัน" พลิกกลับมาครองเสียงข้างมากในสภาใดสภาหนึ่ง อาจส่งผลต่อการให้ความช่วยเหลือยูเครน โดยอาจลดการช่วยเหลือยูเครนและหันมาให้ความสำคัญต่อการแก้ปัญหาในประเทศเป็นอันดับแรก

การแถลงประจำวันของ โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นความหวั่นใจต่อการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ

ผมขอเรียกร้องให้พวกคุณรักษาความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเช่นนี้ไม่เปลี่ยนแปลง จนกว่าจะถึงวันนั้น วันที่เราทุกคนได้ยินคำพูดที่เราเฝ้ารอมาตลอด จนกว่าเราจะได้ยินว่าสันติภาพได้รับการกอบกู้มาได้แล้วในท้ายที่สุด ประชาธิปไตยจะต้องไม่หยุดยั้งหนทางในการมุ่งหน้าสู่ชัยชนะ

ขณะที่เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลสหรัฐฯ ก็รับรู้ถึงความกังวลใจของผู้นำยูเครน และให้คำมั่นว่าการสนับสนุนจะไม่เปลี่ยนแปลงไป

ลินดา โธมัส กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ เดินทางเยือนกรุงเคียฟ และมอบเงินช่วยเหลือจากองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) อีก 25 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 900 ล้านบาท ในการสนับสนุนประชาชนกลุ่มเปราะบางในช่วงฤดูหนาว ในขณะที่รัสเซียยังเดินหน้าโจมตีโครงข่ายสาธารณูปโภคของยูเครน

ด้านโฆษกทำเนียบขาว ยืนยันว่า พรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันยังมีความมุ่งมั่นสนับสนุนยูเครนในด้านต่างๆ

สมาชิกสภาคองเกรส ทั้งรีพับลิกันและเดโมแครตมีความชัดเจนในการสนับสนุนยูเครนอย่างไม่ลดละ และในฉากทัศน์ใดๆ ก็ตามจากคำถามของคุณ ประธานาธิบดีไบเดนยังมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกันของทั้ง 2 พรรค

ขณะที่ เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ เดินทางเยือนกรุงเคียฟ และหารือร่วมกับที่ปรึกษาผู้นำยูเครน โดยซัลลิแวนให้คำมั่นว่า สหรัฐฯ พร้อมยืนเคียงข้างและให้การสนับสนุนยูเครนตราบเท่าที่สงครามในครั้งนี้ยังเดินหน้าต่อไป

หลังจาก เควิน เเมคคาร์ธีย์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้เเทนราษฎร ระบุว่า พรรครีพับลิกันจะไม่ตีเช็กเปล่าให้ยูเครนง่ายๆ อีกต่อไป หากพรรครีพับลิกันเป็นฝ่ายพลิกกลับมาครองเสียงข้างมากได้สำเร็จในสภาใดสภาหนึ่งในศึกเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้

สมาชิกพรรครีพับลิกันบางส่วน เริ่มผลักดันให้สหรัฐฯ นำเงินไปสนับสนุนการรับมือกับจีนและแก้ปัญหาเศรษฐกิจมากกว่า ซึ่งภาวะเสียงแตกในสภาผู้แทนราษฎรต่อการช่วยเหลือยูเครน เกิดขึ้นในขณะที่สงครามครั้งนี้มีแนวโน้มลากยาวต่อไปเรื่อยๆ

ผลการสำรวจความคิดเห็นของหนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal เมื่อวันที่ 22-26 ต.ค. พบว่า กระแสต่อต้านการช่วยเหลือยูเครนในกลุ่มผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกัน เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 6% เป็น 48%

ข้อมูลจาก Kiel Institute for the World Economy ในเยอรมนี ตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค.-3 ต.ค. ชี้ว่า สหรัฐฯ ให้เงินสนับสนุนยูเครนมากที่สุด ไม่ต่ำกว่า 52,000 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 1.9 ล้านล้านบาท

การส่งมอบความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ครอบคลุมตั้งแต่ความช่วยเหลือด้านการเงิน ด้านการทหาร ไปจนถึงด้านมนุษยธรรม

"รัสเซีย" จับตามองผลการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ

ชัยชนะของพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งกลางเทอม อาจส่งผลกระทบต่อแรงสนับสนุนของสมาชิกสหภาพยุโรปโดยตรง ขณะที่ยูเครนอาจต้องเร่งเดินเกมทางการทูตมากขึ้นเป็น 2 เท่า เพื่อไม่ให้การสนับสนุนของพันธมิตรในยุโรปแผ่วลง

ขณะที่ฝ่ายสนับสนุนรัสเซียหวังว่าการครองเสียงข้างมากของรีพับลิกัน จะชะลอกระบวนการในการให้ความช่วยเหลือยูเครนด้วย

นักการเมืองและมหาเศรษฐีชาวรัสเซีย คาดหวังว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้จะทำให้รัสเซียเป็นผู้ชนะอย่างแท้จริง แม้ว่าผลการเลือกตั้งกลางเทอมยังไม่น่าสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ในการดำเนินนโยบายต่อยูเครนก็ตาม

Tsargrad เว็บไซต์ข่าวออนไลน์และสถานีโทรทัศน์ที่ได้รับเงินทุนจากคอนสแตนติน มาโลฟีด มหาเศรษฐีชาวรัสเซียที่มีแนวคิดชาตินิยมสุดขั้ว ประเมินว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการทำลายล้างสหรัฐฯ เนื่องจากผลการเลือกตั้งจะสร้างความปั่นป่วนและความแตกแยกทางการเมืองภายประเทศ จนทำให้การดำเนินนโยบายของสหรัฐฯ บนเวทีโลกอ่อนแอลง และไม่มีศักภาพมากเพียงพอในการสานต่อนโยบายให้ความช่วยเหลือยูเครน

นอกจากนี้ประเมินว่า สหรัฐฯ อาจเผชิญความวุ่นวายทางการเมืองอีกครั้งในการเลือกตั้งปี 2024 และรัสเซียจะเป็นผู้คว้าชัยชนะอย่างแท้จริงในระยะยาว ซึ่งจุดยืนของสื่อรัสเซียหลายสำนัก ตอกย้ำให้เห็นแนวคิดของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ในการสร้างโลกหลายขั้วชัดเจนขึ้น

พงศธัช สุขพงษ์ รายงาน