โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา แถลงข่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม หลังจากพรรคเดโมแครตทำผลงานได้ดีเกินคาดในการเลือกตั้งกลางเทอม
ไบเดน ระบุว่า การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พ.ย. ถือเป็นวันที่ดีสำหรับประชาธิปไตยและเป็นวันที่ดีสำหรับอเมริกา
ประชาธิปไตยของเราเผชิญบททดสอบในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่การเลือกตั้งของชาวอเมริกันได้ส่งเสียงและพิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่าประชาธิปไตยคือตัวตนของเรา
การแข่งขันกันระหว่างพรรคเดโมแครตกับพรรครีพับลิกัน ในการชิงที่นั่งในวุฒิสภา ยังสูสีชนิดหายใจรดต้นคอ หากทั้ง 2 พรรคการเมืองสามารถคว้า 50 ที่นั่งเท่ากัน พรรคเดโมแครตจะเป็นฝ่ายครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาทันที เพราะขณะนี้พรรคเดโมแครตมีเสียงของ คามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในฐานะประธานวุฒิสภาเป็นเสียงตัดสินชี้ขาด
ผลการเลือกตั้งวุฒิสภา 3 รัฐ คือ รัฐจอร์เจีย รัฐแอริโซนา และรัฐเนวาดา จะเป็นตัวตัดสินว่าพรรคการเมืองใดจะครองเสียงข้างมาก โดยรัฐจอร์เจียต้องลงคะแนนเลือกตั้งรอบตัดเชือกอีกครั้ง ในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ เนื่องจากไม่มีผู้สมัครเก้าอี้ ส.ว. ได้คะแนนเกิน 50%
ส่วนการชิงเก้าอี้ทั้งหมด 435 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร พรรครีพับลิกันขยับเข้าใกล้การครองเสียงข้างมากเข้าไปเรื่อยๆ แม้ว่าพรรครีพับลิกันมีแนวโน้มครองเสียงข้างมาก แต่กลับไม่ได้สร้างปรากฏการณ์ Red Wave เหมือนที่คาดการณ์ไว้
เหตุใด "รีพับลิกัน" ไม่สร้างปรากฏการณ์ Red Wave
สาเหตุสำคัญที่ทำให้พรรครีพับลิกันทำผลงานต่ำกว่าเป้า มาจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ความสำคัญกับประเด็นทางสังคมอื่นๆ นอกเหนือจากเรื่องเศรษฐกิจด้วย โดยผลสำรวจหน้าหน่วยเลือกตั้งของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 4,636 คน โดย Edison Research ชี้ว่า ปัจจัยเลือกผู้สมัครอันดับแรกคือ เงินเฟ้อ 31% การทำแท้ง 27% การควบคุมปืน 11% อาชญากรรม 11% และผู้อพยพ 10%
เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ผู้พิพากษาศาลสูงสุดฝ่ายอนุรักษ์นิยม 6 คน ที่ได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน ลงมติกลับคำตัดสินเมื่อปี 1973 ที่เคยให้สิทธิการทำแท้งอย่างถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ
การกลับคำตัดสินของศาลสูงสุดจุดชนวนการประท้วงเป็นวงกว้าง เนื่องจากผู้หญิงกว่า 30 ล้านคนถูกพรากสิทธินี้ไป หากพรรครีพับลิกันครองอำนาจในการปกครองระดับท้องถิ่น อาจส่งผลให้มีการควบคุมการทำแท้งอย่างเข้มงวดมากขึ้น กลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพศหญิงที่ไม่ได้สนับสนุนพรรคใดพรรคหนึ่ง จึงหันมาเทคะแนนให้พรรคเดโมแครตในการเลือกตั้ง
ส่วนผู้สมัครที่ได้รับการสนับสนุนจากโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งหันไปเลือกพรรคเดโมแครตแทน เพราะการชูแนวคิดขวาจัดและจุดยืนต่อต้านผลการเลือกตั้งปี 2020 ของผู้สมัครกลุ่มนี้อาจสร้างความวุ่นวายอีกในอนาคต
แม้ว่าพรรครีพับลิกันจะสร้างปรากฏการณ์ Red Wave ไม่ได้ แต่การทำงานของผู้นำสหรัฐฯ ยังเต็มไปด้วยความท้าทาย
วรรษมน อุจจรินทร์ ผู้สื่อข่าว Voice of America ภาคภาษาไทย ประเมินความท้าทายของไบเดนอีก 2 ปีข้างหน้า ว่า หากพรรคเดโมแครตเสียที่นั่งข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ประธานาธิบดีไบเดนอาจผลักดันประเด็นต่างๆ ได้ยากขึ้น เช่น เรื่องสวัสดิการสังคม เรื่องการคุ้มครองสิทธิการทำแท้ง
การเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้ อาจได้เห็นการเผชิญหน้าและความขัดแย้งทางการเมือง มากกว่าความร่วมมือ และน่าจะเกิดสถานการณ์แบบนี้ไปจนถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีในอีก 2 ปีต่อจากนี้
ผลการเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้อาจช่วยฉายภาพทางการเมืองของสหรัฐฯ ให้เห็นได้ชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะอนาคตทางการเมืองของโจ ไบเดน และโดนัลด์ ทรัมป์ ในการชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2024
พงศธัช สุขพงษ์ รายงาน