นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานยุทธศาสตร์ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ข้อมูลทางการเมือง 3 สัปดาห์ก่อนเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ก็ยังยืนยันว่า ยังทำงานไปตลอดกับพรรคพลังประชารัฐ
พร้อมยังระบุว่า เป็นธรรมดาของช่วงใกล้กับการเลือกตั้งที่จะมีคนย้ายออก-ย้ายเข้า ดังนั้นอย่าไปคิดมาก หากยังมีคนที่อยู่ต่อเป็นส่วนใหญ่ก็โอเคแล้ว ขณะที่ไม่ได้มีการพูดคุยกับนายกฯ กรณีย้ายไปร่วมงานที่พรรครวมไทยสร้างชาติ
ขณะที่กลุ่มสามมิตร ไม่มีการทะเลาะกัน ขณะที่ลูกพรรคในกลุ่มก็ให้ศึกษาว่าพอใจอะไรอย่างไร ซึ่งให้ทุกคนรับฟังหรือต้องกันจะคุยก็ให้คุย และขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาเลือกตั้ง
ทั้งนี้ ในทางการเมืองมีพรรคการเมือง ต้องฟังผู้ใหญ่ หากใช้กลุ่มเป็นหลักหรือย้ายยกกลุ่มนั้นไม่เป็นความจริงหรือจะพูดคุยกับใครก็สามารถทำได้แต่เมื่อจะไปหรือจะอยู่ต่อจริง ๆ ก็ให้มาบอกกัน แต่ทั้งนี้ยังมีเวลาอีกมาก
ขณะที่นายสุชาติ ชมกลิ่น อดีตผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ ยอมรับว่าได้ กราบลา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐแล้ว และได้พูดคุยทำความเข้าใจกันด้วยความเคารพและรัก
แต่ก็ย้ำถึงจุดยืนทางการเมืองที่ต้องมองไปถึงอนาคต เมื่อตัดสินใจแล้ว ก็ไม่ต้องการอยู่ในตำแหน่งขวางทางหรือถ่วงใคร และจากนี้ไปก็รอความชัดเจนจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ก่อนเข้าประชุม คณะรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีคำชี้แจงกรณีนายสุชาติ สั้น ๆ ว่า "เขาขอลาออกเอง พรรคฯไม่ได้ปลด" จากนั้น ก็ปฏิเสธจะเปิดเผยรายชื่อที่เสนอ ปรับ ครม.ตามโควตาพรรคพลังประชารัฐ เช่นเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่ตลอดทั้งวัน ไม่ให้สัมภาษณ์แต่ยิ้มรับพร้อมทักนักข่าว "สวัสดีนะจ๊ะ"
มีรายงานว่า นอกจากชื่อของนายนริศ ขำนุรักษ์ ที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอตามโควตา เพื่อรับตำแหน่ง รมช.มหาดไทย แล้ว พรรคพลังประชารัฐ เตรียมเสนอชื่อ "คนนอก" นั่งเก้าอี้ " รมช." ตามสัดส่วนของ ส.ส.กลุ่มปากน้ำ 1 ตำแหน่ง ส่วนอีกตำแหน่งอยู่ระหว่างพูดคุยกับ ส.ส.ภาคใต้ ที่แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
นอกจากนี้ มีกระแสว่า นายกฯ กำลังเกลี่ยโควตาพรรคพลังประชารัฐ และโควตาของตัวเอง เพื่อให้คนนอกอีก 2 คน และแม้จะมีคำถามถึงการปรับ ครม.ในช่วงปลายเทอมก่อนครบวาระเพียง 3 เดือนเท่านั้น แต่แหล่งข่าว ชี้แจงว่า การทำงานไม่ใช่แค่ช่วงเวลาที่เหลือเท่านั้น ยังต้องนับรวมช่วงเวลา "รักษาการ" ระหว่างการจัดการเลือกตั้งใหม่ด้วย
สำหรับพรรคภูมิใจไทย โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล บอกแล้วว่า ไม่เสนอชื่อรัฐมนตรีใหม่ เพราะ รมช.ศึกษาแค่หยุดปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น
เช่นเดียวกันนายวราวุธ ศิลปอาชา ชี้ว่าไม่มีเหตุต้องปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีของพรรคชาติไทยพัฒนา