แสงอาทิตย์สุดท้ายก่อนลาลับ สลับกับทิวเขาสูง ตัดกับขอบน้ำทะเลและผืนหาดทรายขาวที่ทอดยาวในหุบเขา คล้ายแอบซ้อนความงดงามรอให้ผู้คนมาสัมผัส เป็นภาพความสวยงามของอ่าวมาหยา จ.กระบี่ ที่รู้จักทั่วโลก โดยเฉพาะเมื่ออ่าวแห่งนี้ถูกเลือกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง เดอะบีช เมื่อปี 2542 แต่การเข้ามาเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมของอ่าวมาหยาทำที่นี่บอบช้ำ
ผ่านมากว่า 23 ปี หลังการต่อจนชนะสู้คดี และบทเรียนครั้งนั้นทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาเยียวยาอ่าวมาหยา โดยเฉพาะในช่วง 3 ปี 6 เดือน ที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้ประกาศปิดอ่าวเพื่อฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2561 วันนี้อ่าวมาหยาเหมือนสาวน้อยที่ตื่นขึ้นจากหลับใหล
น้ำทะเลที่ใสสะท้อนจนเห็นพื้นด้านล่าง คล้ายกระจก สอดสลับกับสีสันของปะการังที่เติบโตขึ้นใต้ผืนน้ำ สัตว์น้ำน้อยใหญ่ อย่างฉลามหูดำ ว่ายน้ำอวดสายตานักท่องเที่ยวทั้งต่างชาติและคนไทย ที่ได้เข้ามาสัมผัสความงดงามของอ่าวมาหยาอีกครั้ง
นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียระบุว่า แม้จะเคยเดินทางมาในไทยแล้วหลายครั้ง แต่นี้เป็นครั้งแรกที่ตนเองและเพื่อนมาที่อ่าวมาหยา และประทับอย่างมาก
ธรรมชาติที่สวยงามซึ่งค่อย ๆ ฟื้นตัวอวดสายตาชาวโลก ทำให้อ่าวมาหยา กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ใครหลายคนอยากมาสัมผัส ทางอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จึงต้องเข้ามาบริการจัดการ เพื่อป้องกันนักท่องเที่ยวล้นหาด
กำหนดให้มาเที่ยวตั้งแต่ 07.00 - 18.00 น. รอบละ 375 คน แต่ละรอบอยู่ในอ่าวมาหยาได้ไม่เกินคนละ 1 ชั่วโมง และไม่อนุญาตให้เรือโดยสารเข้ามาจอดหน้าหาดอีกแล้ว แต่ให้ไปจอดเทียบท่าที่ท่าเรือโล๊ะซามะแทน รวมถึงห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันผลกระทบต่อแนวปะการัง
ปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาที่อ่าวมาหยาเฉลี่ยวันละ 4,125 คน ซึ่งเต็มจำนวนที่อ่าวมาหยาจะรองรับได้ โดยผู้ที่จะมาเที่ยวอ่าวมาหยา จะต้องจองคิวล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน QueQ เท่านั้น และจะต้องปฏิบัติตามกฎของอุทยานฯ โดยผู้ที่ฝ่าฝืนจะมีโทษปรับ 5,000 บาท
ก่อนหน้านี้ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้ทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการนำเที่ยว และนักท่องเที่ยวถึงความจำเป็นที่จะต้องวางกฎระเบียบให้เข้มงวดขึ้น เพื่อรักษาความสมบูรณ์ของอ่าวมาหยา ที่ผ่านการพักฟื้นอย่างเต็มที่ไว้ให้นานที่สุด