ใครบ้างที่เคยคุยกับสิริ (Siri) แก้เหงา และใครบ้างที่เคยคุยกับสิริแล้วโดนตอบกลับมาว่า “ฉันไม่รู้ว่าคุณพูดถึงเรื่องอะไร” ทำให้บางทีเราไม่สามารถหาคำตอบได้ทุกเรื่องจากสิริ แต่เพื่อนเล่นแก้เหงาคนใหม่ที่ชื่อว่า "แชตจีพีที" (ChatGPT) สามารถตอบคำถามเราได้แทบทุกเรื่อง ซึ่งหากถามว่า ChatGPT เป็นใคร คงหนีไม่พ้นตัวช่วยหาคำตอบให้กับเรานั่นเอง
ChatGPT เปิดตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว โดยบริษัท OpenAI ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ชื่อดังในซานฟรานซิสโก ChatGPT ทำงานในรูปแบบแชตบอต แม้ว่าแชตบอตจะไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่แต่ ChatGPT ได้รับสมญานามว่าเป็นตัวช่วยหาคำตอบที่ทำหน้าที่ได้ดีกว่ากูเกิล (Google) ด้วยรูปแบบการสนทนาและการตอบสนองตามหัวข้อที่สอดคล้องกัน ซึ่งใช้งานได้สะดวกและรวดเร็ว
นอกจากให้ผลการค้นหาที่ดีแล้วนั้น ยังสามารถอภิปรายหัวข้อต่าง ๆ ได้หลากหลาย โดยใช้ข้อมูลที่คัดเลือกมาจากอินเทอร์เน็ต และยังมีความสามารถในเรื่องการใช้ภาษาที่หลากหลาย ด้วยวิธีการเขียนหลายรูปแบบตั้งแต่บทเพลงไปจนถึงบทประพันธ์
ทั้งนี้ ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีเยี่ยมของ ChatGPT ได้สร้างความกังวลใจให้กับโรงเรียนมัธยมในเมืองนิวยอร์กอยู่ไม่น้อย ทำให้กระทรวงศึกษาธิการของรัฐนิวยอร์กสั่งแบนการใช้งาน ChatGPT บนเครือข่ายและอุปกรณ์ต่าง ๆ เนื่องจากกังวลว่า AI จะมีผลกระทบด้านลบต่อการเรียนรู้ของนักเรียน และกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยและความถูกต้องของเนื้อหา ซึ่งอาจก่อให้เกิดการทุจริตได้ เพราะถึงแม้ว่าแชตบอตตัวนี้จะช่วยตอบคำถามได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ได้ช่วยสร้างทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหา ที่มีความจำเป็นต่อการศึกษาทางวิชาการและการดำเนินชีวิตประจำวัน
บริษัท OpenAI ได้รับฟังข้อคิดเห็นดังกล่าว และมีเป้าหมายในการทำงานร่วมกับระบบการศึกษาที่จะทำให้ทั้งครูและนักเรียนได้รับผลประโยชน์จากการใช้งาน และไม่ต้องการให้ ChatGPT ถูกใช้ในทางทุจริตในโรงเรียนหรือสถานที่อื่น ๆ จึงจะมีการพัฒนามาตรการลดผลกระทบจากการใช้งานระบบแชตบอตนี้
อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีใหม่ ๆ ถูกคิดค้นหรือพัฒนาขึ้นมาตลอดเวลา เพื่อตอบสนองต่อความสะดวกสบายหรือความก้าวหน้าในการใช้ชีวิตของมนุษย์ ทุกภาคส่วนจึงจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้อยู่ร่วมกับเทคโนโลยีที่มีประโยชน์ต่อชีวิตประจำวันได้
ที่มาข้อมูล: theverge, nbcnews, cnn
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech