ทอม แอนดรูวส์ ผู้เขียนรายงานพิเศษเกี่ยวกับสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเมียนมา เผยแพร่รายงานในวาระครบรอบ 2 ปี ที่กองทัพเมียนมาทำรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากเลือกตั้ง
รายงานดังกล่าว ระบุว่า ผลจากการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติและอาชญากรรมสงครามอย่างเป็นระบบของรัฐบาลทหารเมียนมา ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2,900 คน และมีนักโทษการเมืองถูกคุมขังอย่างน้อย 17,500 คน
นอกจากนี้ ยังถือเป็นวาระครบรอบ 2 ปี ความล้มเหลวของประชาคมโลก ในการรับมือกับวิกฤตที่เกิดขึ้นในเมียนมาอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมระบุว่าสิ่งที่รัฐบาลทหารต้องการเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับตัวเอง คือเงิน อาวุธ และความชอบธรรมตามกฎหมาย เนื่องจากขณะนี้ในสายตาของชาวเมียนมา รัฐบาลทหารไม่มีความชอบธรรม
ชาติตะวันตกรวมตัวยกระดับคว่ำบาตรเมียนมา
ขณะที่สหรัฐอเมริกาและชาติพันธมิตรได้เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัฐบาลทหารเมียนมา โดยมาตรการของสหรัฐอเมริกา พุ่งเป้าไปที่คณะกรรมการการเลือกตั้งสหภาพ และถือเป็นครั้งแรกที่สหรัฐอเมริกาใช้มาตรการคว่ำบาตรกับเจ้าหน้าที่ของ "เมียนมา ออยล์ แอนด์ แก๊ส เอนเตอร์ไพรซ์" บริษัทด้านพลังงาน ที่เป็นแหล่งรายได้หลักของรัฐบาลทหารเมียนมา
เช่นเดียวกับแคนาดา ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักร ที่เพิ่มมาตรการคว่ำบาตร โดยพุ่งเป้าไปที่การห้ามส่งออก หรือจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานให้รัฐบาลทหารเมียนมา เพื่อป้องกันการใช้เครื่องบินโจมตีประชาชนในเมียนมา
เมียนมาเตรียมประท้วงเงียบ ต้านรัฐประหารครบ 2 ปี
ขณะที่กลุ่มนักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลทหาร รณรงค์ให้ประชาชนเตรียมการประท้วงเงียบวันนี้ ระหว่างเวลา 10.00-15.00 น. ในโอกาสครบรอบ 2 ปีการรัฐประหาร โดยขอให้ผู้ที่ต้องการร่วมประท้วงเก็บตัวอยู่ในบ้าน และปิดธุรกิจห้างร้านต่าง ๆ ในเวลาดังกล่าว ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าทางการเมียนมาน่าจะส่งเจ้าหน้าที่ความมั่นคงไปตามพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างย่างกุ้งและมัณฑะเลย์