"อยู่ที่นั่นเป็นขี้ อยู่ที่นี่เป็นเพชร"คำเปรียบเทียบของนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ "เจ๋ง ดอกจิก"อดีตนักรบเซาะกราว แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ในวันที่เขาจากลาพรรคเพื่อไทย ไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)
นายยศวริศ กล่าวว่า ตนย้ายมาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ ขณะนี้กำลังทำยุทธศาสตร์การต่อสู้ ใช้ชื่อ"รวมใจรักชาติ" คล้ายๆกับที่เคยขับเคลื่อน นปช.ควบคู่ไปกับพรรคเพื่อไทย ดึงมวลชนที่อกหัก ผิดหวัง ไม่สบายใจ ว้าเหว่ ไม่มีทางไป หรือไม่รู้จะไปไหนจากพรรคเพื่อไทย มาอยู่ที่รวมใจรักชาติ ซึ่งกกต.จะจ้องหาทางจับผิดตนก็ไม่ได้ เพราะเป็นการทำงานมวลชน ไม่ใช่เป็นพรรค พูดได้เต็มที่
นายยศวริศ ในวัย 65 ปี ล้มลุกคลุกคลานบนถนนการเมืองมาตลอด เคยถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ทั้งจากคดีปกปิดบัญชีทรัพย์สินฯ และคดีการเมือง คดีปล้นรถถังทหารเมื่อปี 2553 ถูกจำคุกรวมเกือบ 2 ปี โดยไร้การช่วยเหลือดูแลจากใคร ทำให้ต้องกลับมาทบทวนอนาคตตัวเอง หลังศาลมีคำสั่งตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี เหลืออีก 5 ปีจะพ้นมลทิน
นายยศวริศ ยอมรับว่าในอดีตเป็นคนเสื้อแดงเต็มตัว ต่อต้านและวิพากษ์อีกฝ่ายมาตลอด แต่เมื่อเหตุการณ์ผันผ่าน คิดว่าทุกสีเสื้อไม่ควรจะแบ่งแยกกันอีกต่อไป กลุ่มพันธมิตรฯและกลุ่มกปปส. เมื่อสู้กันเสร็จทุกกลุ่มก็เลิก ยกเว้นเสื้อแดง นปช.
"เจอคุก 4-5 รอบ ไม่ไหวแล้ว พอศาลอุทธรณ์ตัดสินรอบสุดท้ายในคดีปล้นรถถัง เป็นเวลา 5 ปี 4 เดือน ผมโดนคนเดียว ระหว่างที่เราสู้ให้เขา ไม่ได้สู้เพื่อตัวเอง แต่ถึงเวลาก็ขาดการเหลียว สู้เพื่อเขา เราติดคุก สู้เพื่อเขา เวลาอับเฉาขาดการดูแล" เจ๋ง ดอกจิก กล่าว
จึงต้องทบทวนว่า เราสู้เพื่อใคร ลูกก็ถามว่า พ่อสู้เพื่ออะไร ช่วงติดคุก มีแต่ลูกเมียคอยดูแลให้กำลังใจ ต้องเอารถเราไปเข้าไฟแนนซ์เพื่อใช้จ่ายระหว่างติดคุก จึงคิดว่าควรพอได้แล้ว
นายยศวริศ ย้ำว่า อดีตแกนนำนปช.เช่นเขาเปรียบเสมือนหมาล่าเนื้อ พอล่าเสร็จ เขาก็เอาเนื้อมาแบ่งกันกินใต้ถุนบ้าน หมาก็นั่งหอบแฮ่กๆ ไม่ได้อะไรเลย มีแต่แผลเต็มตัว ซ้ำยังต้องมานั่งเสียแผลรักษาตัวเอง ถึงเวลาเจ้าของอยากจะใช้งาน ก็มาหาหมาให้ออกไปล่าเนื้ออีก หมาผู้ซื่อสัตย์เหล่านั้น ก็ล่าเนื้อต่อไป แต่หมาอย่างตน ไม่เอาแล้ว
หลังถูกชักชวนจากผู้ใหญ่คนหนึ่ง ซึ่งเคยให้ความช่วยเหลือ แนะให้มาทำงานที่พรรครวมไทยสร้างชาติ เขาและนายสมหวัง อัสราษี อดีตแกนนำนปช.อีกคนหนึ่ง จึงตัดสินใจเข้าร่วมงานโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ โดยไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคฯ เนื่องจากยังอยู่ระหว่างถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง
"ผู้ใหญ่ซีกนี้ บอกว่า แทนที่จะมานั่งด่ากัน ให้มาช่วยกันทำงานดีกว่า ผมบอกไปว่า กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ไม่ใช่ว่าจะ"ขาย"ได้ทุกพื้นที่ แต่เมื่อเห็นว่าบุคคลากรของพรรคต่างมาจากหลากหลาย ทั้งปชป.พลังประชารัฐ ท้องถิ่นไทย มารวมกันถ้าเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง ก็ถือว่าเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย"นายยศวริศ กล่าว
ทั้งเห็นว่า แม้พล.อ.ประยุทธ์จะเคยยึดอำนาจในปี 2557 แต่ในปี 2562 ได้เข้าสู่การเลือกตั้ง ถือว่าเป็นประชาธิปไตย เข้าเงื่อนไขกติกาตามกฎหมายรัฐธรรมนูญที่เอื้อให้ และในปี 2566 พล.อ.ประยุทธ์ สมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเข้าสู่กติกาเต็มรูปแบบแล้ว
อดีตแกนนำนปช.บอกว่า ที่ผ่านมาออกไปพื้นที่ปราศรัย ในถิ่นคนเสื้อแดง ชาวบ้านต่างมาฟังปราศรัยไม่มีใครด่า เขาเข้าใจว่าทำไมมาอยู่ตรงนี้ ได้อธิบายว่า เวลานี้ไม่มีแดง ไม่มีเหลือง ไม่มีนกหวีดแล้ว ควรมาอยู่สีธงชาติด้วยกัน เราเคยเชียร์มุมแดงมาตลอด ทั้งๆที่รู้ว่ามุมน้ำเงินจะชนะ แล้วจะไปเชียร์ทำไม ควรต้องอุ้มไก่ตัวที่จะชนะดีกว่า เพราะผู้ที่จะมาเป็นรัฐบาล สามารถช่วยแก้ปัญหาให้เราได้
การเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ในฐานะอดีตนักรบใต้ดินของพรรคเพื่อไทย นายยศวริศ บอกว่า ไม่มีทางที่พรรคเพื่อไทยจะทำ"แลนด์สไลด์" เพราะได้ทำลายนักรบ ground war ของตัวเองจนหมดสิ้นแล้ว
จึงเหลือแต่นักรบ Air war ที่ใกล้ชิดผู้มีอำนาจและผู้บริหารพรรคจะได้เปรียบ แต่พวก ground war จะถูกเขี่ยทิ้ง คนที่คลุกคลีและเป็นคนที่ใช้อยู่ในพื้นที่ซึ่งเป็นคนเสื้อแดง จะไม่ได้รับการพิจารณาอะไรเลย
เมื่อพวกปฎิบัติการถูกทำลาย พรรคเพื่อไทยผลักมิตรไปเป็นศัตรู แล้วจะ"แลนด์สไลด์"ได้อย่างไร หลายคนย้ายออกไปจากพรรค ไม่ได้ไปเฉยๆ แต่พาคนที่มีคะแนนไปด้วย สิ่งที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ออกมาพูดทุกๆวัน คือกำลังทำลายแลนด์สไลด์
นายยศวริศ กล่าวว่า หากประชาธิปไตยมีอยู่ในพรรคเพื่อไทยจริงบุคคลากรสำคัญคงไม่แตกกระสานซ่านเซ็น ในหลายพื้นที่พรรคเพี่อไทยหวังแลนด์สไลด์ เป็นการเอาพ่อไปเป็นปาร์ตี้ลิส แล้วเอาลูกมาลงส.ส.เขต อย่างนี้ อาจได้ระดับหนึ่ง แต่ไม่ได้ทั้งหมดเพราะรุ่นลูก มือยังไม่ถึงชั้น
นายยศวริศ กล่าวว่า แม้ชาวบ้านจะยังรักนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯอยู่ แต่เมื่อถึงเวลาเขาดูออกว่า รักเกือบตาย แต่ไม่ได้ใช้งาน ก็ไม่มีประโยชน์ ชาวบ้านไม่โง่ รู้ว่าลูกสาวอาจเป็นตัวหลอกก็ได้
หลายพื้นที่เจอปัญหาขัดแย้ง ผู้สมัครเก่าโดนเท เพราะถูกคนใหม่ที่เป็นเด็กเจ๊ เด็กนาย เบียดตกเวที แบบนี้ในหลายๆจังหวัดอาจกลายเป็นแลนด์สลบได้ เช่น จ.อ่างทอง ราชบุรี ประจวบฯ สกลนคร และอุดรธานี
ขณะที่ปัจจัยชี้ขาดปัจจุบันคือ แบ่งชาวบ้านเป็น 4 ประเภท 1.เลือกพรรค โดยไม่สนใจผู้สมัคร 2. เลือกคน โดยไม่สนใจพรรค 3.นโยบายโดนใจก็เลือกบัญชีรายชื่อ และ 4. เงินมา กาหมด
นายยศวริศ กล่าวว่า หลังวันที่ 1 มี.ค.นี้ คาดว่าจะเห็นตัวตนของผู้สมัครส.ส. ทั้งระบบเขตและบัญชีรายชื่อของพรรคฯชัดเจน ในฐานะที่เป็นนักรบกราวน์วอร์ จะเข้าไปทำงานการเมืองภาคประชาชนในพื้นที่เป้าหมาย เพื่อจะได้ไม่เหนื่อยมาก ทำในทุกจังหวัด จังหวัดละ 3 วัน วางเป้าหมาย จะทำให้ครบทุกพื้นที่ผู้สมัครส.ส.ระบบเขต
จึงน่าสนใจว่า การดึงอดีตนักรบเซาะกราว นปช.มาเคลื่อนไหวทำมวลชนในพื้นที่คนเสื้อแดง ของพรรครวมไทยสร้างชาติ จะสะกัดและเอาชนะคู่แข่งสำคัญ โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ได้จริงหรือไม่