วันนี้ (13 มี.ค.2566) น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ตามที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดข้อมูลเด็กจมน้ำเสียชีวิตในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ ปี2561-2565 ว่า มีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จมน้ำเสียชีวิตในช่วงฤดูร้อน ซึ่งตรงกับช่วงปิดเทอมระหว่าง เดือนมี.ค.-พ.ค. จำนวน 953 คน เฉลี่ยวันละ 2 คนนั้น
ขณะนี้อยู่ในช่วงปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ของสถานศึกษาต่าง ๆ ซึ่งช่วงนี้นักเรียนบางส่วนเว้นว่างจากการเรียนไม่มีกิจกรรม เด็กๆ อาจชวนกันไปเล่นน้ำตามบ่อ หนอง คลอง บึง สระว่ายน้ำในหมู่บ้าน จึงขอให้ครูประสานกับผู้ปกครอง และชุมชน ให้ช่วยกันสอดส่องดูแลบุตรหลานด้วย
ขณะเดียวกันขอให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ ติดตามให้ทุกโรงเรียนทำแผนความปลอดภัยในช่วงเปิดเรียนในปีการศึกษา 2566 เช่น การเดินทางมาเรียน ความปลอดภัยในสถานศึกษา การบูลลี พฤติกรรมรุนแรง กลั่นแกล้ง รังแกผู้อื่นทั้งทางวาจาและร่างกาย ทั้งนักเรียนเข้าใหม่และนักเรียนเดิม โดยเฉพาะนักเรียนเข้าใหม่ที่อยู่ในช่วงเวลาปรับตัวอาจต้องดูแลเป็นพิเศษ เป็นต้น
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่าความรุนแรงในรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสถานศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษาและครูต้องช่วยกันป้องกัน ปราบปรามและหยุดความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว เช่น ในกรณีของเหตุความรุนแรงใน ร.ร.บ้านแม่ฮ้อยเงิน ต.แม่ฮ้อยเงิน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ นั้น
ทันทีที่ทราบเรื่อง ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) เชียงใหม่ เขต 1 ก็ได้ลงพื้นที่ติดตามและสืบสวนข้อเท็จจริงพร้อมกับเครือข่ายที่โรงเรียนบ้านแม่ฮ้อยเงินและบ้านพักของนักเรียน เพื่อเยียวยาให้กำลังใจนักเรียนที่ถูกกระทำ รวมถึงเยี่ยมบ้านนักเรียนที่กระทำ
ซึ่งนักเรียนที่ถูกกระทำได้มาเรียนปกติ ส่วนนักเรียนที่กระทำ ทางโรงเรียนได้ให้ใบงานไปเรียนที่บ้าน พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สภ.แม่โป่ง บ้านพักเด็กเชียงใหม่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อร่วมให้ความช่วยเหลือนักเรียนและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ตนได้มอบหมายให้ สพฐ. และ สพป.เชียงใหม่ เขต 1 ติดตามและดูแลกรณีนี้อย่างใกล้ชิด พร้อมรายงานความคืบหน้าการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันแจ้งให้ทุกโรงเรียนดูแลและระมัดระวังในเรื่องดังกล่าวด้วย
อ่านข่าวรอบวันเพิ่ม :
เพิ่มขีดความสามารถ! ภูเก็ตเตรียมขยายพื้นที่ "ถนนคนเดินภูเก็ตหลาดใหญ่"