เจ้าหน้าที่หน่วยควบคุมไฟป่าแม่ตะไคร้ และศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมอุทยานแห่งชาติ จ.เชียงใหม่ เข้าติดตั้งกล้อง 360 องศา เพื่อใช้ตรวจหาไฟป่าและกลุ่มควันไฟ พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับความเคลื่อนไหวป้องกันการลักลอบเข้าป่า บริเวณโดยรอบดอยนางเมาะ เขตรอยต่อ อ.สันกำแพง และ อ.แม่ออน ภายในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้
ภาพ : เฟซบุ๊กศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมอุทยานแห่งชาติ จ.เชียงใหม่
ล่าสุดวันนี้ (15 มี.ค.) สถานการณ์ฝุ่นควันใน จ.เชียงใหม่ เริ่มจางลง หลังมีฝนตกในพื้นที่ช่วง 2 วันที่ผ่านมา แต่นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งให้ทุกภาคส่วนช่วยกันดูแลไม่ให้เกิดไฟป่า โดยเฉพาะดอยหลวงเชียงดาว เนื่องจากเป็นต้นสายของแม่น้ำปิง หากเกิดไฟป่าจะส่งผลให้ฝุ่นควันลอยเข้าไปในตัวเมืองเชียงใหม่
ส่วนข้อมูลจุดความร้อนของ จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. มีจุดความร้อนน้อยกว่าจังหวัดข้างเคียงในทุกๆ วัน ขณะที่ข้อมูลจุดความร้อนทั่วประเทศไทยและประเทศข้างเคียง พบว่าไทยมีจุดความร้อนสูงเป็นอันดับที่ 1 ในวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา เพียงวันเดียวเท่านั้น ขณะที่ประเทศข้างเคียงมีจุดความร้อนสูงที่สุดกว่า 7,000 จุด แต่ จ.เชียงใหม่ มีจุดความร้อนเพียง 77 จุด
ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ได้พูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้านถึงการควบคุมการเผาในพื้นที่ ตั้งแต่ก่อนเข้าสู่ช่วงไฟป่าฝุ่นควัน ทั้งการพูดคุย ทางการทูต และกองควบคุมกำลังภาคพื้น แต่ไม่สามารถเข้าไปควบคุมการทำงานของประเทศเพื่อนบ้านได้ เป็นเพียงการขอความร่วมมือเท่านั้น
ล่าสุด รายงานคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษ พบว่า ค่าฝุ่น PM2.5 ในภาคเหนือ มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 จุดความร้อนสูงสุดที่ จ.เพชรบูรณ์ 18 จุด นครสวรรค์ 17 จุดและอุทัยธานี 12 จุด
อ่านข่าวอื่นๆ
ยอดผู้ป่วยรักษาคลินิกมลพิษฯ กทม. 12 วัน 148 คน
กทม.เข้มมาตรการลด PM 2.5 - คนหนุนติดเครื่องพ่นละอองน้ำ
เหนือ-อีสาน ฝุ่นกระทบสุขภาพ-ท่องเที่ยว กทม.เจอฝุ่นหนักกลางเดือนนี้