วันนี้ (24 มี.ค.2566) นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวว่า กรณีสื่อเสนอข่าวกรณีมีบุคคลนำเงินที่ได้จากผู้กระทำความผิดมูลฐานไปบริจาคให้แก่โรงพยาบาล จำนวน 2 แห่ง โดยมีข้อเท็จจริงเบื้องต้น ว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินที่ได้มาจากบุคคลที่มีพฤติการณ์การกระทำความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการจัดให้มี การเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (พนันออนไลน์)
นายเทพสุ กล่าวว่า ขณะนี้ ปปง.เตรียมพิจารณาเบื้องต้น 2 ประเด็นว่า เงินบริจาคดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐาน ตามพ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 หรือไม่ โดยปปง.อยู่ระหว่างการตรวจสอบธุรกรรม หรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดของกลุ่มผู้กระทำความผิดมูลฐานและบุคคลที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์
หากปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าเงินบริจาคดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐาน ปปง.จะพิจารณาดำเนินการตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 โดยเร็ว
หากปปง.ตรวจสอบพบทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดอื่นๆ จะเสนอคณะกรรมการธุรกรรม เพื่อพิจารณายึดอายัดทรัพย์สินดังกล่าวตามกฎหมาย
อ่านข่าวเพิ่ม "ทนายษิทรา" เปิดภาพอ้าง "ชูวิทย์" เจรจาถุงเงินกับ "นายพล-เจ้าของเว็บไซต์"
ตรวจสอบเส้นทางเงิน-บุคคลได้เงินส่อผิด
นายเทพสุ กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่ 2 มีพฤติการณ์การกระทำความผิดอาญาฐานฟอกเงินหรือไม่ เมื่อมีการกระทำความผิดมูลฐานเกิดขึ้น และมีทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด การที่บุคคลใดได้รับทรัพย์สินดังกล่าวจะเข้าข่ายมีความผิดอาญาฐานฟอกเงินตามมาตรา 5 แห่งพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ก็ต่อเมื่อมีพฤติการณ์การกระทำ ที่ครบองค์ประกอบความผิดตามมาตรา 5 ซึ่งเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน
ทั้งนี้ หากคณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งยึดเงินบริจาคจำนวนดังกล่าว และได้มีการส่งสำนวนคดีให้พนักงานอัยการพิจารณา เพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้เงินบริจาคจำนวนดังกล่าว พร้อมดอกผลตกเป็นของแผ่นดิน
และปรากฏพยานหลักฐานว่ามีการกระทำความผิดอาญาฐานฟอกเงินตามมาตรา 5 ทาง ปปง.จะดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดให้ถึงที่สุด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ชูวิทย์" ตั้งทนายฟ้อง "ษิทรา" มอบเงินบริจาค 6 ล้าน ให้ ผบ.ตร. สอบที่มา