ยกระดับเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติไปอีกขั้น ด้วยความสำเร็จครั้งล่าสุด จากทีมวิศวกรมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย เผยแพร่ในงานวิจัยว่าสามารถผลิตวีแกนชีสเค้กสุดน่ารับประทานที่มีความซับซ้อนในการผลิต และมีรสชาติที่หลากหลาย โดยการใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติ
ชีสเค้กนี้ถูกพิมพ์ขึ้นในห้องปฏิบัติการของคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย โดยการนำวัตถุดิบ 7 อย่าง ได้แก่ เกรแฮมแครกเกอร์ เนยถั่ว เยลลี นูเทลลา กล้วยบด ครีมน้ำตาล และซอสเชอร์รี ซึ่งเปรียบเสมือนเป็น "น้ำหมึก" ของเครื่องพิมพ์ 3 มิติ โดยนำวัตถุดิบทั้งหมดมาใส่ลงไปในเครื่องพิมพ์ จากนั้นจึงพิมพ์ออกมา และอบด้วยเลเซอร์เพื่อให้เค้กสุกพร้อมรับประทาน โดยเครื่องผลิตชีสเค้กนี้เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ และการอบด้วยแสงเลเซอร์ ซึ่งสามารถควบคุมสูตรอาหารได้อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นปริมาณของส่วนผสมและระยะเวลาในการทำอาหาร
นอกจากนี้ ทีมวิศวกรยังได้ทดลองผลิตวีแกนชีสเค้กออกมาเป็นรสชาติต่าง ๆ เช่น เชอร์รี กล้วย เนยถั่ว และสเปรดเฮเซลนัท โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาทีในการผลิตชีสเค้กหนึ่งชิ้น ถือเป็นเมนูที่ซับซ้อนที่สุดที่เครื่องพิมพ์ 3 มิติสามารถผลิตได้ในตอนนี้ ซึ่งผู้ที่ได้ลิ้มรสต่างกล่าวตรงกันว่า “เป็นรสชาติที่ไม่เหมือนอะไรที่เคยกินมาก่อน”
การทำอาหารด้วยวิธีนี้มีข้อดี คือ สามารถระบุคุณค่าทางโภชนาการของอาหารได้อย่างละเอียด สามารถช่วยวางแผนสำหรับมื้ออาหาร ทำให้อาหารถูกสุขลักษณะมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดปริมาณขยะอาหารได้ เนื่องจากผู้บริโภคสามารถเลือกพิมพ์อาหารได้ตามจำนวนที่ต้องการได้โดยไม่ต้องเหลือทิ้ง
ทั้งนี้ อาจเป็นไปได้ว่าในอนาคตเทรนด์การผลิตอาหารจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติ จะถูกผลักดันและยกระดับให้แพร่หลายและครบวงจรมากขึ้น จนสามารถกลายมาเป็นเครื่องใช้ในครัวเรือนที่ทุกคนต้องมี แต่ทว่ายังคงติดอุปสรรคด้านต้นทุนที่สูง และยังคงต้องทำการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมว่าการผลิตอาหารด้วยการพิมพ์จะส่งผลอย่างไรต่อคุณค่าทางโภชนาการของอาหาร
ที่มาข้อมูล: newatlas, nature, engineering, gizmodo
ที่มาภาพ: nature
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech