วันนี้ (17 เม.ย.2566) พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่ากรณีเหตุตำรวจ สน.ลุมพินี ได้รับแจ้งความจากเพื่อนผู้เสียหายชาวจีน ว่าไม่สามารถติดต่อเพื่อนได้ และเมื่อติดต่อได้ช่วงบ่ายวันที่ 15 เม.ย. ก็พบว่ามีร่องรอยถูกทำร้ายร่างกายที่ใบหน้า และถูกจับตัวมาเรียกค่าไถ่ พร้อมกับห้ามให้ไปแจ้งความ ตำรวจจึงเริ่มสืบสวนจากจุดที่เกิดเหตุ จนถึงจุดที่ผู้ต้องหานำตัวผู้เสียหายไปกักขัง ก่อนที่กลุ่มผู้ต้องหาจะยินยอมปล่อยตัวผู้เสียหายในวันที่ 16 เม.ย. เนื่องจากได้รับเงินแล้ว
โดยกล้องวงจรปิดภายในโรงแรมหรูแห่งหนึ่งย่านถนนหลังสวน บนชั้น 17 สามารถบันทึกภาพขณะที่ชาย 2 คน ได้เข็นรถของทางโรงแรม และมีกล่องพลาสติกขนาดใหญ่คลุมผ้าอยู่ลงจากลิฟต์ เพื่อไปลานจอดรถ และนำตัวผู้เสียหายชาวจีนขึ้นรถเบนซ์ สีฟ้าของตัวเองออกจากโรงแรม โดยจุดหมายไปที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
ทั้งนี้ตำรวจสืบสวนพบว่าผู้ต้องหาที่เข้าไปก่อเหตุที่โรงแรมมี 3 คน คือ นายกบ นายกาย และ นายโจ พาตัวผู้เสียหายไปที่รีสอร์ตใน อ.หัวหิน จากนั้นได้ชักชวนนายจูน มาร่วมเฝ้าตัวผู้เสียหายที่รีสอร์ตอีกคนหนึ่ง
พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยว่า การสืบสวนพบว่าผู้เสียหายคบหากับผู้หญิงคนไทยน.ส.น้ำเพชร ซึ่งเป็นอดีตผู้สมัครเวทีนางงามแห่งหนึ่งใน จ.สุพรรณบุรี ได้ร่วมกันวางแผนที่จะเรียกค่าไถ่ โดยให้นายกาย ซึ่งคบซ้อนกับ น.ส.น้ำเพชร ด้วย เป็นคนช่วยเหลือจัดการหาทีมอุ้ม และได้นำรถยนต์ และคีย์การ์ดการเข้าห้องพักมาให้ทีมอุ้มมาก่อเหตุ จากนั้นได้เรียกค่าไถ่โดยให้โอนเงินเข้าบัญชีของ น.ส.ตา 3 ครั้ง เป็นเงินรวม 3,930,000บาท
เมื่อได้เงินแล้วผู้ต้องหาก็ได้นัดหมายปล่อยตัวผู้เสียหายที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในอำเภอหัวหิน เพื่อนของผู้เสียหายจึงเดินทางไปรับ ขณะนั้นได้ประสานกับตำรวจให้เข้าจับกุมผู้ต้องหา จนสามารถจับนายกบ ได้ในร้านอาหาร ส่วนผู้ต้องหาชายอีก 3 คน ได้ขอศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับ นอกจากนั้นได้จะขอศาลออกหมายจับผู้หญิงที่เกี่ยวข้องอีก 2 คนด้วย
แต่จากการตรวจสอบประวัติของผู้เสียหาย พบว่าทำอาชีพเทรดเงินสกุลดิจิทัล ยังพบว่ามีหมายจับของทางการจีน ในข้อหาฉ้อโกงมูลค่าความเสียหาย 12 ล้านหยวน หรือกว่า 60 ล้านบาท แต่ยังไม่มีหมายประกาศจับของตำรวจสากล (หมายแดง) ทำให้ยังหลบหนีเข้ามาในไทยได้ ซึ่งก็พบว่าเข้ามาในไทยฐานะวีซานักท่องเที่ยวมาแล้วหลายครั้ง ขณะนี้ก็ได้กักตัวอยู่ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อรอส่งตัวกลับประเทศจีนเพื่อดำเนินคดีตามหมายจับ
พล.ต.ต.นพศิลป์ ยังระบุว่า สาเหตุการก่อเหตุในครั้งนี้ คือความโลภของแฟนสาวคนไทย ที่รู้ว่าผู้เสียหายมีเงินจำนวนมาก ไม่ได้มีความขัดแย้งทางธุรกิจอื่น และที่กล้าตัดสินใจทำเพราะรู้ว่าผู้เสียหายมีหมายจับอยู่ จึงเชื่อว่าจะไม่กล้าไปแจ้งความ
หลังถูกควบคุมตัวได้ ตำรวจได้นำผู้ต้องหามาชี้จุดที่นำตัวผู้เสียหายขึ้นไปบนรถ โดยผู้ต้องหาได้นำตัวผู้เสียหายที่อยู่ในลังพลาสติกขึ้นทางด้านหลัง ก่อนจะขับรถไปที่ อ.หัวหิน ซึ่งผู้ต้องหา ก็ยอมรับว่าได้ก่อเหตุจริง และมีการทำร้ายร่างกายเนื่องจากผู้เสียหายขัดขืน และหลังจากไปถึงรีสอร์ตที่หัวหินแล้วก็ไม่ได้ทำร้ายร่างกายอีก
สำหรับคดีนี้ มีผู้ต้องหาเกี่ยวข้องทั้งหมด 6 คน จับได้แล้ว 2 คน และยังหลบหนีอีก 4 คน เป็นผู้ชาย 2 คน และผู้หญิงอีก 2 คน ขณะนี้ตำรวจสืบสวนอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี ส่วนเงินที่ผู้ต้องหาโอนไป สามารถอายัดคืนมาได้ 2,300,000 บาท ที่เหลือ อยู่ระหว่างติดตามเช่นกันว่าจะโอนไปยังบัญชีอื่นๆ อีกหรือไม่
อ่านข่าวอื่นๆ :