จากสภาพอากาศที่แปรปรวนส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะทุเรียน ทั้งในภาคอีสานและภาคใต้ ที่กำลังจะออกสู่ตลาดช่วงเดือนมิถุนายน
ชาวสวนใน อ.สวี จ.ชุมพร เข้าแถวเติมน้ำจากแอ่งน้ำธรรมชาติ ที่หลงเหลือเพียงเล็กน้อย เพื่อนำไปรดน้ำในสวนเกษตร โดยเฉพาะสวนทุเรียนที่กำลังออกผลผลิต หลังเจอฝนทิ้งช่วง ชาวบ้านต้องเปิดบริการน้ำให้เกษตรกร 2 จุด สลับให้บริการวันเว้นวัน
นายนิ่มนวล ชาลีชัย เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน ยอมรับว่า ปีนี้ฝนทิ้งช่วงนานกว่า 3 เดือน ทำให้สระกักเก็บน้ำ 2 แห่ง แห้งขอด แม้ใกล้เก็บผลผลิต แต่ก็ต้องยอมตัดผลทุเรียนทิ้ง เพื่อรักษาต้นไว้
ขณะที่ จ.ศรีสะเกษ นายชนินทร ท้าวธงชัย เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน กล่าวว่า ผลผลิตทุเรียนภูเขาไฟ ของเกษตรกรใน ต.พราน อ.ขุนหาญ ที่กำลังจะเก็บผลในช่วงกลางเดือนมิถุนายน พบส่วนใหญ่ลูกเล็ก บิดเบี้ยว ไม่ได้คุณภาพ บางต้นมีศัตรูพืชรบกวน จนไม่ติดผล และที่ผ่านมาเผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวน โดยเฉพาะปีนี้ สภาพอากาศร้อนจัดในตอนกลางวัน ส่วนกลางคืนอากาศเย็น ทำให้ดอกทุเรียนร่วง ส่วนลูกที่ติด ก็ไม่สมบูรณ์ และร่วงหล่นง่าย ทำให้ปีนี้ทุเรียนภูเขาไฟใน อ.ขุนหาญ ออกตลาดลดลงกว่าร้อยละ 50
ด้าน นายวิชัย ศรีโพธิ์งาม เกษตรจังหวัดศรีสะเกษ ระบุว่า ในปีนี้ผลผลิตทุเรียนภูเขาไฟจะออกสู่ตลาดกว่า 13,000 ตัน ซึ่งถือว่ามากกว่าปีที่ผ่านมา เพราะเพิ่มพื้นที่การปลูก แต่ผลผลิตบางส่วนอาจไม่สมบูรณ์ ลูกเล็ก แต่ความต้องการทุเรียนยังมีมากขึ้น ทำให้ราคาทุเรียนภูเขาไฟหน้าสวน ยังอยู่ที่กิโลกรัมละ 150 บาท จากเดิมกิโลกรัมละ 90 บาท ส่วนทุเรียนเกรดพรีเมียมราคาหน้าสวนจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 250 บาท
อ่านข่าวเพิ่ม :