วันนี้ (14 มิ.ย.2566) กลุ่มผู้สนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ รวมตัวกันตะโกนข้อความ We love Trump ที่หน้าศาลในไมอามี รัฐฟลอริดา ตั้งแต่ก่อนที่ทรัมป์จะเดินทางไปขึ้นศาล หลายคนถือป้ายข้อความ ธงสนับสนุนทรัมป์ในการเลือกตั้งปี 2024 และหลายคนแต่งตัว สวมหมวก ติดธงชาติ แสดงสัญลักษณ์ทีมทรัมป์ ท่ามกลางผู้สนใจติดตามจำนวนมาก โดยเฉพาะสื่อมวลชนจากหลากหลายประเทศทั่วโลกที่มาเฝ้าจับตา แต่นอกจากกลุ่มผู้สนับสนุนแล้วอีกด้านหนึ่งยังมีกลุ่มต่อต้าน ซึ่งชูป้ายเรียกร้องให้ทรัมป์ถูกจับด้วย
"ทรัมป์" ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาคดีจัดการเอกสารลับ
และเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ทรัมป์เดินทางไปขึ้นศาลเพื่อรับฟังข้อกล่าวหา ท่ามกลางการติดตามอย่างใกล้ชิดของสื่อมวลชน ที่ติดตามความเคลื่อนไหวของขบวนรถ หลังมีการปิดถนนบางส่วนบนเส้นทางไปศาล
ก่อนที่ช่วงประมาณ 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นที่ฟลอริดา อดีตผู้นำสหรัฐฯ เข้ารับฟังข้อกล่าวหาเรียบร้อย และปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาตามการคาดการณ์ โดยมีรายงานว่าระหว่างอยู่ในศาล อดีตผู้นำสหรัฐฯ นั่งกอดอกและไม่ได้พูดอะไร ซึ่งกระบวนการในศาลกินเวลาประมาณ 45 นาที
อ่านข่าว : "ทรัมป์" เตรียมขึ้นศาลคดีเก็บเอกสารลับของรัฐบาลสหรัฐฯ
โดนัลด์ ทรัมป์ เผชิญข้อหาอาญา 37 กระทง ในคดีการจัดการเอกสารชั้นความลับอย่างไม่เหมาะสม จากการนำเอกสารลับออกจากทำเนียบขาวหลังพ้นตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อต้นปี 2021 ไปยังมาร์อลาโก คฤหาสน์หรูในรัฐฟลอริดา รวมถึงที่สโมสรกอล์ฟที่เขาเป็นเจ้าของในเบดมินสเตอร์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งถือเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ
เอกสารชั้นความลับดังกล่าว ประกอบด้วยเอกสารที่มีข้อมูลเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ขีดความสามารถทางกลาโหมและยุทโธปกรณ์ของทั้งสหรัฐฯ และนานาชาติ ข้อมูลจุดอ่อนของสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรซึ่งอาจตกเป็นเป้าการโจมตี และแผนการตอบโต้กรณีที่สหรัฐฯ ถูกโจมตี ซึ่งล้วนเป็นข้อมูลทางการทหารที่ละเอียดอ่อน
ความผิด 37 กระทง แยกตามจำนวนของเอกสารลับที่พบ ประกอบด้วยการจงใจเก็บข้อมูลด้านกลาโหม 31 กระทง จากการที่ทรัมป์เก็บเอกสารเหล่านี้ไว้กับตัวโดยมิชอบและไม่นำส่งคืน, การเก็บงำหรือปกปิดเอกสารจากการสอบสวน 3 กระทง จากการที่ทรัมป์และผู้ช่วยพยายามปกปิดกล่องเอกสารจากการเข้าตรวจสอบของเจ้าหน้าที่
การให้ข้อมูลเท็จ 2 กระทง จากการให้ข้อมูลเท็จกับเจ้าหน้าที่เพื่อพยายามปกปิดเรื่องการจัดเก็บเอกสารลับ และข้อหาสมรู้ร่วมคิดเพื่อขัดขวางกระบวนการยุติธรรมอีก 1 กระทง จากการร่วมมือกันปกปิดการนำเอกสารลับออกจากทำเนียบขาวของทรัมป์กับผู้ช่วย
จากข้อหาทั้งหมดนี้ทำให้ทรัมป์กลายเป็นอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกในประวัติศาสตร์ ที่ถูกรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ตั้งข้อหาในคดีอาญา รัฐบาลที่เขาเองเคยนั่งเก้าอี้ผู้นำและกำลังมุ่งมั่นลงชิงเก้าอี้อีกสมัยในปีหน้า
วันศุกร์ที่ผ่านมาอัยการสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งข้อหาทรัมป์ครั้งนี้พร้อมเปิดเผยภาพถ่ายของกล่องเอกสาร และกล่องหลากหลายรูปแบบปะปนกัน จำนวน 6 ภาพ ซึ่งมีทั้งที่ตั้งเรียงอยู่บนเวทีห้องจัดเลี้ยง ห้องน้ำของสโมสร และห้องเก็บของ ขณะที่บางส่วนกระจัดกระจายอยู่ตามพื้น โดยในบางภาพภายในห้องเก็บของ มีกล่องเอกสารอยู่ไม่ต่ำกว่า 80 กล่อง
หากถูกตัดสินว่ากระทำความผิดจริง โทษสูงสุดที่ทรัมป์อาจเผชิญ คือ โทษจำคุก โดยแต่ละข้อหาจะมีโทษแตกต่างกันออกไป เช่น ข้อหาเกี่ยวกับการเก็บข้อมูลด้านกลาโหมโดยมิชอบ มีโทษจำคุกกระทงละ 10 ปี ส่วนข้อหาสมรู้ร่วมคิดเพื่อขัดขวางกระบวนการยุติธรรมและปกปิดหลักฐานในการสอบสวนของรัฐบาลกลาง มีโทษจำคุกสูงสุดกระทงละ 20 ปี ส่วนข้อหาให้ข้อมูลเท็จมีโทษกระทงละ 5 ปี แต่ส่วนมากในคดีความเหล่านี้ผู้เชี่ยวชาญส่วนหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่า ศาลมักจะไม่ได้ตัดสินให้รับโทษสูงสุด
"ทรัมป์" โผล่ทักทายผู้สนับสนุนหลังขึ้นศาล
ขณะที่ความเคลื่อนไหวล่าสุด ทรัมป์เดินทางไปยังร้านอาหารในไมอามี พร้อมพูดคุยกับผู้สนับสนุน และย้ำว่าตัวเองถูกล่าแม่มด ทั้งหมดเป็นเกมการเมือง ซึ่งท่าทีนี้ทำให้หลายคนมองว่า ทรัมป์น่าจะใช้การเผชิญคดีความครั้งนี้เป็นประโยชน์ต่อการสร้างความสนใจและเรียกเสียงสนับสนุนก่อนการเลือกตั้งปีหน้าได้อีกครั้ง