วันนี้ (5ก.ค.2566) นายประเสริฐ ประดิษฐ์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า จากการสู้รบที่บ้านใหม่ยัวติ๊ด ทำให้มีชาวกะเหรี่ยงเผ่าปะต่อง (คอยาว) ในหมู่บ้านหนีเข้ามาอาศัยอยู่ที่บ้านห้วยโปงเลา ตรงข้ามช่องทางบ้านน้ำเพียงดิน ต.ผาบ่อง กว่า 100 คน และอีกกว่า 1,000 คน เป็นชาวคะยา ได้พากันหนีไปอาศัยอยู่ที่บ้านใหม่ ดอยยามู ตรงข้ามบ้านแม่ส่วยอู ต.ผาบ่อง
สำหรับชาวไทใหญ่ ทหารเมียนมาที่เข้ามาควบคุมหมู่บ้านใหม่ยัวติ๊ด จ.บอลาแคะ รัฐคะยา ได้คัดแยกราษฎรในหมู่บ้านที่เป็นคนเชื้อสายไทใหญ่กว่า 400 คน ให้ไปอาศัยอยู่ที่วัด 3 แห่ง คือ วัดจองคำ ป๊อกเหนือ ,วัดหย่องคำ บ้านหอ และ วัดจองหนองแสง ป๊อกตะวันออก
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMhoxJM6G7xefkqt8h7Db6GWGFdGe.jpg)
ซึ่งจากสถานการณ์สู้รบที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านใหม่ยัวติ๊ดของ จ.บอลาแคะ รัฐคะยา ทำให้ราษฎรในหมู่บ้านดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านพี่เมืองน้องของชาวแม่ฮ่องสอน และเป็นญาติกันกับคนในฝั่งไทยพื้นที่บ้านห้วยเดื่อ
ทางเครือข่ายสภาวัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน และ เครือข่ายชาวไต (ไทใหญ่) ในแม่ฮ่องสอน ขอเปิดรับบริจาคข้าวสารอาหารแห้ง และสิ่งของเครื่องใช้สำหรับเด็กและผู้หญิง ที่ประสบกับภาวะสงคราม
โดยบริจาคได้ที่ บ้านของอาจารย์เก หรือนายประเสริฐ ประดิษฐ์ ที่บ้านห้วยเดื่อ หรือโทร.080-130-4141 เพื่อที่จะได้รวบรวมสิ่งของที่รับบริจาคส่งไปให้ราษฎรในรัฐคะยา ที่กำลังประสบกับภาวะสงคราม และต้องหนีมาอยู่ใกล้เขตไทย ทั้งนี้ยอดผู้ลี้ภัยในไทยล่าสุดอยู่ที่ 4,877 คน
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMhoxJM6G7xefkqt3IOU59yT4KKqt.jpg)
ขณะที่แหล่งข่าวของ กองกำลังกะเหรี่ยงคะยา KA เปิดเผยว่า ขณะนี้ทหารเมียนมา ได้ถูกส่งเข้ามาในพื้นที่ อ.แม่แจ๊ะ และ จ.บอลาแคะ 2 กองพลทหารราบ ประกอบด้วย กองพลทหารราบเบาที่ 44 (พล.ร.เบา 44) และ กองพลทหารราบเบา ที่ 77 ( พล.ร.เบา 77) และมีการสู้รบกันระหว่างกองกำลัง KA ,KNDF และ PDF กับทหารเมียนมาที่เข้ามาใหม่ บริเวณบ้านแม่แจ๊ะ และบ้านใหม่ยัวติ๊ด
![](https://news.thaipbs.or.th/media/BRpLwT0TYaGXOF4tVw8a6BZ6u4V8bedzjifGssDrgXa6Q.jpg)
อย่างไรก็ตาม ถนนที่เชื่อมระหว่าง จ.บอลาแคะ ไปจนถึง จ.ลอยก่อว์ ขณะนี้ กองกำลัง KA , KNDF และ PDF สามารถควบคุมได้แล้ว ทำให้ทหารเมียนมา ไม่สามารถส่งกำลังบำรุงเข้ามาในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำสาละวิน และรวมไปถึง ในฝั่งรอยต่อรัฐคะยากับรัฐฉาน ตรงข้ามบ้านรักไทย ต.หมอกจำแป่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน
ทหารเมียนมาในภาคตะวันออกเขตรัฐฉาน ได้พยายามส่งกำลังเข้ามาช่วยเหลือ แต่ยังไม่สามารถเข้ามาในพื้นที่รัฐคะยาได้ การส่งกำลังบำรุงให้กับทหารเมียนมา ทำได้ คือ ใช้เฮลิคอปเตอร์แต่เพียงอย่างเดียว
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMhoxJM6G7xefkqt1KvySt7ch2BJC.jpg)
สำหรับทหารเมียนมาในด้านทิศตะวันออกของรัฐคะยา ติดกับรัฐฉาน ประกอบด้วย พัน คร.514 ฐานดอยสามเมือง, พัน.ร.เบา134, พัน.คร.337 และ พัน.คร.429 ตั้งฐานปฏิบัติการ ตั้งแต่ตรงข้ามช่องทางบ้านดอยแสง ต.ปางหมู ไปจนถึงตรงข้าม ดอยสามเมือง ตรงข้ามบ้านรักไทย ต.หมอกจำแป่
คาดว่าทางทหารกะเหรี่ยงคะยา จะเข้าโจมตีเพื่อกวาดล้างให้ออกไปนอกพื้นที่รัฐคะยา โดยฝ่ายชนกลุ่มน้อยแต่ละรัฐ กำลังพยายามที่จะผลักดันทหารเมียนมาออกจากพื้นที่ของตนเองให้หมดในสิ้นปีนี้
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMhoxJM6G7xefkqt7I2ULuKCLE03T.jpg)
ขณะเดียวกัน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2566 เป็นต้นมา กองกำลังทหารกะเหรี่ยงคะยา และพันธมิตร สามารถยึดฐานที่มั่นของทหารเมียนมาได้ 8 ฐานที่มั่น และสามารถยึด ปืน ค.120 มม.ของ ทหารเมียนมา สังกัดกองพัน ป.356 ได้จำนวน 6 กระบอก พร้อมด้วยกระสุน ค.ขนาด 120 มม. จำนวน 12,000 นัด (ค.120 มม.1 กระบอกมีกระสุนพิกัดโหลดจำนวน 200 นัด) ประกอบด้วย ฐานแม่แจ๊ะ ปืน ค.120 มม. 2 กระบอก , ฐานฯ ดอยน้ำพอง ตรงข้ามช่องทางห้วยต้นนุ่น จำนวน 2 กระบอก , ฐานฯแม่ตะนอย ใกล้กับผาตั้ง จำนวน 2 กระบอก
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMhoxJM6G7xefkqt5vPvvAxShNVD9.jpg)
ในส่วนของข่าวที่ว่ามีการยิงเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ ของทหารเมียนมาตกบริเวณพื้นที่ บ้านใหม่ยัวติ๊ด โดยกลุ่ม KNPLF (กาลาลาต๊ะ หรือดาวแดง) เป็นข่าวปล่อยทางโซเชียลเท่านั้น
เนื่องจากได้มีการสอบสวน และใช้โดรนบินตรวจสอบจุดที่คาดว่า เฮลิคอปเตอร์ตก ไม่พบซากเครื่องบินแต่อย่างใด เมื่อสอบสวนไปยังทีมหน่วย KNPLF แล้ว ได้อ้างว่าใช้ปืนพกสั้นขนาด .38 มม.ยิงเฮลิคอปเตอร์ ทำให้การค้นหาต้องยุติลง
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMhoxJM6G7xefkqt4s8gzwP3XdRrY.jpg)
สำหรับสถานการณ์ที่บ้านใหม่ยัวติ๊ดพบว่า กองทัพอากาศเมียนมาได้ทิ้งระเบิดใส่บ้านเรือนประชาชน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน มีผู้อพยพหนีเข้าสู่ไทย บริเวณช่องทางบ้านน้ำเพียงดิน (เนิน 585) 100 กว่าคน แต่ทางการไทยปฏิเสธ ทำให้ผู้อพยพเหล่านั้นได้พักหลบภัยที่บริเวณที่ราบเชิงเขา เขตพื้นที่บ้านห้วยโปงเลา รัฐคะยา ห่างจากฐานที่มั่นทหารไทยลงไปในเขตรัฐคะยาประมาณ 5 กม.