วันนี้ (4 ส.ค.2566) รายงานข่าวจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า การจำหน่าย พลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ ฯลฯ ใน จ.นราธิวาส มีมานานแล้ว เพราะเป็นที่นิยมของคนในพื้นที่ และชาวมาเลเซีย ที่จะจุดในช่วงเทศกาลสำคัญ เช่น วันชาติมาเลเซีย วันฮารีรายอ เป็นต้น เพื่อเกิดเสียงดัง และแสงสี เพื่อความรื่นเริงและเป็นมงคล
ทำให้ธุรกิจจำหน่ายสินค้าเหล่านี้เติบโตอย่างรวดเร็ว และมีเงินหมุนเวียนในแต่ละปีจำนวนมาก และผู้ที่เกี่ยวข้องในธุรกิจนี้ พร้อมจะเสี่ยงในการลงทุน การจำหน่าย ทั้งแบบถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย ซึ่งการทำผิดกฎหมายทำให้เกิดช่องทางของ “ส่วย” ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ และนอกพื้นที่หลายหน่วย
รายงานข่าวระบุว่า ปัจจุบันมีโกดังเก็บและจำหน่ายพลุใน จ.นราธิวาส ซึ่งสินค้ามีเป้าหมายจำหน่ายในประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย หลายแห่ง เช่น อ.สุไหงโก-ลก 1 แห่ง อ.แว้ง 1 แห่ง และ อ.ตากใบ 1 แห่ง โดยเฉพาะใน อ.ตากใบ เป็นการซื้อขายใช้วิธีนัดแนะมารับสินค้า
สินค้าส่วนใหญ่จะส่งเข้าประเทศมาเลเซียผ่านทางแม่น้ำโก-ลก เนื่องจากไม่ต้องเสียภาษีและไม่ต้องขออนุญาต หรือหากส่งทางรถยนต์ ก็จะต้องจ่าย “ส่วย” ให้เจ้าหน้าที่บริเวณชายแดนด้วย
สำหรับการจ่ายส่วยเพื่อจำหน่ายพลุและดอกไม้ไฟในพื้นที่ จ.นราธิวาส แหล่งข่าวระบุว่า มีอยู่หลายส่วนที่เกี่ยวข้อง และได้รับผลประโยชน์จากธุรกิจนี้
- จ่ายให้หน่วยงานซึ่งขอใบอนุญาตในการขนย้าย (ใบอนุญาตมีอายุ 6 เดือน)
- จ่ายประจำเดือนให้กับหน่วยงานในพื้นที่ ที่เกี่ยวข้องในการควบคุม (เดือนละ 20,000-30,000 บาท)
- จ่ายให้หน่วยปราบปรามจากส่วนกลาง (ที่มาตรวจในช่วงเทศกาล เช่น วันชาติมาเลเซีย, ฮารีรายอ ฯลฯ หน่วยละ 30,000 บาท/ครั้ง)
- จ่ายให้หน่วยเฉพาะกิจหรือชุดเคลื่อนที่เร็ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (ครั้งละ 3,000-5,000 บาท)
- จ่ายส่วยกรณีถูกจับกุม (ครั้งละ 30,000 บาท ขึ้นไป) เพื่อให้ตั้งข้อหาเบา เช่น ข้อหาไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ, ไม่มีใบอนุญาตในการขนย้ายวัตถุอันตราย เป็นต้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"นราธิวาส" สรุปความเสียหายพลุระเบิด 2,513 คนได้รับผลกระทบ
เจ้าของโกดังพลุมูโนะหนีออกนอกประเทศแล้ว เด้ง "จ.ส.ต." โยงส่วย