ผู้ติดเชื้อเอชไอวีป่วย "ฝีดาษวานร" เสียชีวิตคนแรกในไทย

สังคม
14 ส.ค. 66
13:35
1,204
Logo Thai PBS
ผู้ติดเชื้อเอชไอวีป่วย "ฝีดาษวานร" เสียชีวิตคนแรกในไทย
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กรมควบคุมโรค เผยพบผู้ติดเชื้อเอชไอวีติดฝีดาษวานรเสียชีวิตรายแรกในไทย เป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องพบโรครวมทั้งเชื้อเริมและซิฟิลิส มีผื่นแผลจากโรคฝีดาษวานรที่รุนแรง ทำให้เกิดเนื้อตายบริเวณกว้างที่จมูกและคอ มีอาการแทรกซ้อนที่ปอดและสมอง

วันนี้ (14 ส.ค.2566) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ได้รับรายงานการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคฝีดาษวานรจากสถาบันบำราศนราดูร จึงส่งทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรค กองระบาดวิทยาและสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 ชลบุรี ลงพื้นที่สอบสวนโรคร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่พบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นเพศชาย อายุ 34 ปี

เปิดไทม์ไลน์ผู้ป่วย 

ผู้เสียชีวิต มีประวัติเป็นไข้ ปวดศีรษะ คัน และมีผื่นและตุ่มขึ้นบริเวณผิวหนังตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.2566 และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี ในวันที่ 11 ก.ค.2566 แพทย์สงสัยเป็นโรคฝีดาษวานร จึงส่งตัวอย่างตรวจยืนยันผลพบสารพันธุกรรมของไวรัสฝีดาษวานร และขณะเดียวกันยังตรวจพบการติดเชื้อเอชไอวีและเชื้อซิฟิลิส ต่อมาผู้ป่วยมีอาการเจ็บคอตรวจพบภาวะติดเชื้อรา ซึ่งเป็นโรคติดเชื้อฉวยโอกาสของเอชไอวี

ส่วนบริเวณผิวหนังมีผื่นแผลจากโรคฝีดาษวานรกระจายทั่วตัว ได้รับการรักษาจนครบ 4 สัปดาห์แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ ต่อมาวันที่ 9 ส.ค. ผู้ป่วยมีอาการอ่อนเพลีย หายใจลำบาก ญาติจึงนำผู้ป่วยมารับการรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร ตรวจพบว่ามีผื่นจากโรคฝีดาษวานรกระจายทั่วตัว และมีการตายของเนื้อเยื่อที่จมูกและคอเป็นบริเวณกว้าง มีการติดเชื้อแทรกซ้อนที่แขนและขา มีภาวะปอดอักเสบ และอาการสมองอักเสบ

ผลตรวจเม็ดเลือดขาว CD4 เท่ากับ 16 เซลล์ต่อ มล. แสดงถึงภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องรุนแรง แพทย์ได้ให้ยาต้านไวรัสฝีดาษวานรและยาปฏิชีวนะร่วมด้วย ต่อมาผู้ป่วยอาการทรุดลงและเสียชีวิต ในคืนวันที่ 11 ส.ค.2566

แนวโน้มโรคเพิ่มสูงขึ้น ปัจจุบันผู้ป่วยรวม 189 คน

นพ.ธเรศ กล่าวว่า โรคฝีดาษวานรเป็นโรคติดต่ออุบัติใหม่ของประเทศไทย สถานการณ์ล่าสุดข้อมูล วันที่ 8 ส.ค.2566 มีรายงานผู้ป่วยรวม 189 คนในไทย เป็นสัญชาติไทย 161 คน ชาวต่างชาติ 28 คน มีแนวโน้มระบาดเพิ่มขึ้น ซึ่งระยะแรกพบผู้ป่วยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล ก่อนแพร่ไปจังหวัดอื่น

ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย และมีติดเชื้อเอชไอวีร่วมด้วยจำนวน 82 คน หรือ 43% ปัจจัยเสี่ยงหลัก คือ การมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักที่เป็นผู้ติดเชื้อฝีดาษวานร

สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสามารถตรวจสอบอาการเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง หากมีผื่น/ตุ่มขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ ทวารหนัก ปาก หรือตามร่างกาย และมีประวัติสัมผัสใกล้ชิด สัมผัสแนบชิด หรือมีเพศสัมพันธ์กับผู้สงสัยฝีดาษวานร หรือผู้ป่วยฝีดาษวานร ให้สังเกตตนเองภายหลังสัมผัสผู้ป่วยภายใน 21 วัน

ทั้งนี้หากมีอาการ ไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อย ต่อมน้ำเหลืองโต มีผื่น หรือ ตุ่มน้ำหรือ ตุ่มหนองขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ หรือ ทวารหนัก หรือ บริเวณรอบ ๆ ตามมือ เท้า หน้าอก ใบหน้า หรือบริเวณปาก ให้รีบเข้ารับการตรวจที่สถานบริการสุขภาพ หรือโรงพยาบาลทันที โดยแจ้งอาการและประวัติเสี่ยงประกอบการวินิจฉัย

ใช้ยาต้านไวรัส TPOXX รักษาผู้ป่วยอาการรุนแรง

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรคฝีดาษวานรระบาดเพิ่มขึ้น สะท้อนถึงพฤติกรรมเสี่ยงที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง

ผู้ป่วยฝีดาษวานรรายใหม่เป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีเกือบครึ่งหนึ่ง ซึ่งผู้ป่วยกลุ่มนี้ภูมิคุ้มกันบกพร่องอยู่แล้ว มักมีการติดเชื้อฉวยโอกาสอื่นร่วมด้วยได้ง่ายทำให้เกิดอาการรุนแรงจนเสียชีวิต

ทั่วโลกมีรายงานผู้ป่วยฝีดาษวานรเสียชีวิต 152 คนแล้ว ตั้งแต่เริ่มการระบาดในยุโรปและหลายประเทศตั้งแต่เดือน พ.ค.2565 โดยปัจจุบันประเทศไทยได้รับมอบยาต้านไวรัสชื่อ Tecovirimat หรือ TPOXX จำนวนหนึ่งจากองค์การอนามัยโลกมาใช้รักษาผู้ป่วยฝีดาษวานรที่มีอาการมากที่อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน และจะต้องมีการวัดประสิทธิผลของยานี้ไปพร้อมกัน

ทั้งนี้ โรคฝีดาษวานรสามารถป้องกันได้ โดยงดเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า ไม่สัมผัสแนบเนื้อกับผู้ที่มีผื่น ตุ่มหรือหนอง แนะนำให้ล้างมือบ่อย ๆ และไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น จึงขอให้ทุกจังหวัดเฝ้าระวังติดตามกลุ่มเสี่ยงและสื่อสารวิธีการป้องกันแพร่เชื้อโดยงดการมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าและไม่สัมผัสแนบเนื้อผู้มีอาการสงสัยโรคฝีดาษวานร 

อ่านข่าวอื่น ๆ

เดือนเดียวป่วย "ฝีดาษลิง" เพิ่ม 48 คน สูงขึ้น 2.3 เท่า

"หมอยง" เผยไทยป่วย "ฝีดาษวานร" 120 คน สูงสุดในอาเซียน

จับตา "ฝีดาษลิง" พ.ค.นี้ ไทยพบป่วยเพิ่ม 21 คน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง