ติดเทรนด์แอปพลิเคชันเอ็กซ์มา 2 วันแล้ว สำหรับ #ชลน่านลาออกกี่โมง หลังการแถลงข่าวของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ระบุว่า รวมไทยสร้างชาติได้ตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ โดยปราศจากเงื่อนไขต่างๆ ทางการเมือง
อ่าน : ดีลจบ! รวมไทยสร้างชาติร่วมเพื่อไทย ตั้งรัฐบาล
ทางด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เจ้าของประโยคไวรัล
ประกาศชัด ไม่จับมือกับพลังประชารัฐ ไม่จับมือกับลุงป้อม
ถ้ามีจับมือ ผมลาออกจากหัวหน้าพรรค
ยังคงเก็บตัวเงียบตลอด 2 วันที่ผ่านมา จนกระทั่งเมื่อช่วงดึกของวันที่ 18 ส.ค.2566 เฟซบุ๊ก หมอชลน่านFcไม่มีดราม่า ซึ่งเป็นกลุ่มแฟนคลับที่ชื่นชอบ นพ.ชลน่าน ได้แชร์โพสต์จากเฟซบุ๊ก ไป๊น่าน ชลน่านfc ช่วยงานสามีแพร้บ เพจมองหลากมุมของภรรยานักการเมือง พร้อมข้อความสั้นๆ โดยในโพสต์ระบุว่า
หัวใจและความรับผิดชอบคือคำตอบที่สำคัญในวันนี้ ระหว่าง #ชลน่านจะลาออกกี่โมง เมื่อไหร่อย่างไรดี กับทุกๆวินาที ที่อนาคตของบ้านเมืองจะเป็นไป สามัคคีกันดีกว่าก่นด่าวาทกรรม หันหน้าเข้าหากันช่วยกันพาบ้านเมืองก้าวต่อไปข้างหน้า
เฟซบุ๊ก หมอชลน่านFcไม่มีดราม่า
ส่วนเฟซบุ๊ก ไป๊น่าน ชลน่านfc ช่วยงานสามีแพร้บ นั้น ระบุข้อความว่า
#ไม่ยึดติด_พอเพียง_พร้อม คือคำตอบของ #ชลน่านจะลาออกกี่โมง?
ชีวิตที่ไม่ติดยึด พอเพียง และมีความพร้อม การรักษาคำพูดรักษาสัจจะจึงไม่ใช่เรื่องยากและไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถ้าเงื่อนไขที่เคยพูดเกิดขึ้นจริงคือ "ถ้าจับมือกับพลังประชารัฐ มีดีลกับลุงป้อม ผมลาออกจากหัวหน้าพรรค"
คำถามคำเรียกร้องให้ลาออกเป็นกระแสใหญ่โต เราไม่เคยยึดติดกับหัวโขนการรักษาสัจจะรักษาคำพูดจึงเป็นเรื่องเล็กมากสำหรับเราที่พร้อมทุกเมื่อ แต่เรื่องการรักษาไว้ซึ่งหน้าที่ความรับผิดชอบต่อความเป็นไปที่ยิ่งใหญ่ของบ้านเมืองเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญจนเทียบกันไม่ได้
การโหวตนายกรัฐมนตรีกับการตั้งรัฐบาลเพื่อให้บ้านเมืองเดินต่อไปข้างหน้า ลดความขัดแย้งแบ่งพวกแบ่งฝ่ายมาในอดีตทำวิกฤตให้เป็นโอกาสหันหน้าเข้าหากันเป็นเรื่องสำคัญ การเจรจาการรวบรวมความสำเร็จสู่เป้าหมายในฐานะพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประเทศชาติและประชาชนเป็นเรื่องสำคัญที่ยิ่งใหญ่กว่า
หมอชลน่านมุ่งมั่นทำงานประสานความสำเร็จที่จะเป็นไปได้ในทางเลือกที่จำกัดของบ้านเมือง ตามที่รัฐธรรมนูญ 2560 บีบไว้อย่างจำใจขัดใจผู้คน แต่สื่อและกระแสผู้คนบางกลุ่มกลับปั่นวาทกรรมมุ่งมั่นกดดันเรื่องการลาออกเหมือนไม่ห่วงใยความเป็นไปของบ้านเมืองเลยหรือ รุมปั่นกระทืบรูปกระทืบใจกระทืบลามไปถึงครอบครัวพ่อแม่อย่างน่าอนาถใจ
การทำเพื่อให้บ้านเมืองไปต่อกลับกลายเป็นความไม่พอใจขัดใจเพราะไม่ใช่แนวทางที่บางคนบางกลุ่มต้องการ ทำไมคนไทยเหมือนกันจะรักสามัคคีกันไม่ได้ กลายเป็นการปลุกปั่นให้แตกแยกด้อยค่าผู้อื่นเป็นกระแสนิยมสังคมช่วยกันพัง พวกเราอยากให้บ้านเมืองเดินหน้าด้วยวิธีการแบบนี้จริงหรือ
หมอชลน่านพร้อมลาออกจากหัวหน้าพรรคทุกเมื่อ เมื่อภารกิจใหญ่สำเร็จลุล่วง การลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคไม่ได้ทำให้เราสูญเสียตัวตนหรือสูญเสียสิ่งใดๆ แต่เป็นความรับผิดชอบยิ่งใหญ่ที่พึงกระทำ เพราะตั้งแต่แรกจนปัจจุบันหรือในอนาคต #เราก็ยังคงเป็นคนธรรมดาเดินดินเดิมๆ ยศฐาบรรดาศักดิ์หัวโขนที่คนดิ้นรนเรียกร้องให้เราถอดออกเพราะยังมองไม่ผ่านทะลุหัวโขนนั้นไม่ได้สำคัญอะไรกับครอบครัวเราเลย
อนาคตของบ้านเมืองสำคัญมาก ความสามัคคีของคนในชาติสำคัญมาก การลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเป็นเรื่องเล็กมาก กาลอันสมควรกับความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ต่อบ้านเมือง เป็นเรื่องที่ควรมีสติตระหนัก เมื่องานใหญ่สำเร็จเรื่องเล็กๆอย่างการลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทยนี่แสนสบายสบาย ชลน่าน ศรีแก้ว นวลสกุล บํารุงพงษ์
ป.ล. ไม่เปิดคอมเม้นท์ เพราะเบื่อความก้าวร้าว ไร้มารยาท ด้อยค่าผู้อื่น ขาดสติ ชีวิตดีๆจะมีได้อย่างไร ความสุขความสำเร็จจะตามการดำรงชีวิตที่มีสติมาเสมอ
เฟซบุ๊ก ไป๊น่าน ชลน่านfc ช่วยงานสามีแพร้บ
อ่าน : "อุ๊งอิ๊ง"ยันรับพ่อ "ทักษิณกลับไทย" 9 โมงวันโหวตนายกฯ
อ่าน : วิป 3 ฝ่ายเคาะ “เศรษฐา” แคนดิเดตนายกฯ ไม่ต้องแสดงวิสัยทัศน์
ณ ขณะนี้ (19 ส.ค.2566) ต้องยอมรับว่า นพ.ชลน่าน นั้น ยังไม่ได้ทำผิดคำพูดที่ได้พูดเอาไว้ เพราะยังไม่มีข่าวอย่างเป็นทางการว่า "ลุงป้อม และ พลังประชารัฐ" จะเข้าร่วมรัฐบาลเพื่อไทยอย่างแท้จริง
แต่ก็เป็นที่จับสังเกตได้ว่า ดีลลับพลังประชารัฐนั้นอาจจบก่อนเริ่มดีลรวมไทยสร้างชาติ เพราะ "ไผ่ ลิกค์" คือผู้นำสารส่งต่อว่า เสียง "ทั้งหมด" ของพลังประชารัฐ พร้อมยกมือโหวตให้แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย อย่างไม่มีเงื่อนไข ถึงขั้นเปรียบเปรยไว้ว่า
เหมือนพลังประชารัฐเซ็นเช็คเปล่าให้เพื่อไทย และเพื่อไทยอยากได้เท่าไหร่ก็ให้เขียนตัวเลขเอง
รวมถึงสามารถนำเงินที่ขึ้นไปใช้ทำอะไรก็ได้
เรื่องนี้ถูกยืนยันโดยคนเคยคุ้นของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร "จตุพร พรหมพันธุ์" ที่ระบุว่า บุคลิกของ ไผ่ ลิกค์ ไม่ใช่คนที่จะออกมาพูดให้ข่าวกับสื่อมากนัก โดยเฉพาะเรื่องสำคัญเช่นนี้ ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่า ไม่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็อาจเป็น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่เป็นผู้สั่งการให้ ไผ่ ลิกค์ เป็นตัวแทน