วันนี้ (20 ส.ค.2566) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เปิดข้อมูลหลักฐานโต้แย้งนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย เกี่ยวกับเรื่องซื้อขายที่ดินใจกลางทองหล่อ จากบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง
นายชูวิทย์ ระบุว่า การที่นายเศรษฐา ออกมาชี้แจงว่านายสมศักดิ์ไม่ใช่นอมินีของบริษัทตัวเอง แต่เป็นคนของฝ่ายบริษัทผู้ขายที่ดินนั้น ไม่เป็นความจริง พร้อมอธิบายความเชื่อมโยงระหว่างนายเศรษฐากับนายสมศักดิ์ ว่า นายสมศักดิ์ที่มีอาชีพเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย นั่งตำแหน่งกรรมการในบริษัทแห่งหนึ่งทั้งที่ถือครองหุ้นเพียง 1% และเป็นผู้ไปเซ็นยื่นขอรับรอง EIA ให้คอนโดมิเนียม Khun by YOO ของแสนสิริบนที่ดินแปลงดังกล่าว
นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันบริษัทนั้นก็เป็นเจ้าของถนนในโครงการ T77 ของแสนสิริด้วย และในโครงการ T77 ยังมีโครงการคอนโดมิเนียมอีกหลายโครงการ รวมถึง Siri Campus ซึ่งเป็น “สำนักงานใหญ่” ของแสนสิริเอง
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แถลงปมซื้อขายที่ดินใจกลางทองหล่อ
นายชูวิทย์ ตั้งข้อสังเกตว่า การที่นายเศรษฐาบอกว่าไม่รู้จักนายสมศักดิ์ พร้อมระบุว่านายสมศักดิ์เป็นคนของบริษัทเอกชนผู้ขายที่ดิน จึงไม่น่าเชื่อถือ และคนที่พูดจาไม่น่าเชื่อถือก็ไม่ควรเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จึงขอให้นายเศรษฐาถอนตัวออกจากการเป็นแคนดิเดตนายกฯ ภายในวันที่ 22 ส.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 21 ส.ค.นี้จะเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้ง ขณะเดียวกันได้ส่งข้อมูลนี้ให้กับ สส.และ สว.รวม 750 ฉบับ โดยจัดส่งทางไปรษณีย์ เพื่อให้ประกอบการพิจารณาว่านายเศรษฐาเหมาะสมที่จะเป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่
นอกจากนี้ นายชูวิทย์ ยังกล่าวถึงการเดินทางกลับประเทศไทยของนายทักษิณ ชินวัตร ว่า ขณะนี้นายทักษิณอยู่ที่สิงคโปร์และการจะเดินทางกลับไทยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับวันพรุ่งนี้ และขึ้นอยู่กับสถานะการเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของนายเศรษฐา พร้อมระบุอีกว่า หากนายเศรษฐาพ้นจากการเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย เป้าหมายแคนดิเดตคนถัดไปอาจเป็นคนในพรรคภูมิใจไทย และหากไม่สำเร็จก็จะมีลำดับถัดไปเป็นคนที่ยังเงียบอยู่จนถึงขณะนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"เศรษฐา" โต้กลับ "ชูวิทย์" ยันซื้อที่ดินแสนสิริถูก กม.-ไม่มีเงินทอน