วันนี้ (22 ก.ย.2566) นายสุนทร วิลาวัลย์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี (อบจ.) เปิดใจกับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก หลังศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 2 จ.ระยอง พิพากษายกฟ้องจำเลย พร้อมพวกรวม 10 ไม่มีเจตนารู้เห็นกับการออกเอกสารสิทธิ ในคดีออกโฉนดรุกอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พื้นที่ปราจีนบุรี
นายสุนทร ยืนยันว่าได้ที่ดินมาถูกต้อง มีหน่วยงานรัฐรู้เห็นทุกกระบวนการ และไม่คิดฟ้องกลับ ป.ป.ช.ขอบคุณศาลที่เมตตายกฟ้อง ให้ความเป็นธรรมการที่ศาลยกฟ้อง ในฐานะของประชาชนคนหนึ่ง ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายว่าจะให้ประชา ชนทั่วประเทศมีที่ดินทำกิน มีสค. มีใบจอง หรือที่ไม่เข้ากับอุทยานฯ ป่าสงวน ก็มีสิทธิทำกิน และมีโฉนด
ซื้อที่ดินจากชาวบ้าน คนหนึ่งที่ครอบครอง ซึ่งตัวเอง และนางกนกวรรณ อดีต รมช.ศึกษา ก็ซื้อที่ดินทำกินมาจากชาวบ้านที่เข้าทำประ โยชน์ ราคาหลักหมื่น เป็นคนที่ชอบเขา ต้นไม้ เมื่อซื้อแล้วเข้าไปถาง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ก็บอกว่าที่ผมไม่เข้าอุทยานฯ
อ่านข่าว ไขคำตอบ! คดีรุกป่าเขาใหญ่นักการเมืองรอด อุทยาน-ป.ป.ช.ลุยต่อ
นายสุนทร กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นทางจังหวัด อำเภอ ระบุว่าให้ประชาชนมีที่ดินสค.ไปออกโฉนด จะได้ทำกิน จึงมายื่นออกโฉนด และเจ้าหน้าที่ดิน จากส่วนกลางมาตรวจสอบ และพาไปชี้แนวเขต ก็พบว่าเคยมีการทำประโยชน์ และไม่ทับที่ใคร ไม่ทับที่สาธารณะ ไม่เข้าที่ดินผิดกฎหมาย
เมื่อถูกต้องที่ดินก็ออกโฉนดให้ ผมไม่เคยอยากได้ทรัพย์สินแผ่นดินมาเป็นของผม แต่ซื้อมาเพราะราคาถูก ผมชอบต้นไม้ใบหญ้า ภูเขา
กรมอุทยานฯ ยืนยันเอาคืนที่ดินของรัฐทุกแปลง
ขณะที่ยังมีคดีหลัก ที่นายสุนทร และนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ ลูกสาว ตกเป็นจำเลย ถูกกล่าวหาว่าออกเอกสารสิทธิที่ดินรุกล้ำพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
นายสุนทร และนางกนกวรรณ ต่อสู้คดีนี้ หลังจากครอบครองที่ดินที่ถูกออกเอกสารสิทธิในช่วงปี 2536–2545 และ ถูกหลายหน่วยงานตรวจสอบหลังเริ่มปรับสภาพที่ดินในปี 2563
นายอรรถพล เจริญชันษา รักษาราชการอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ระบุว่า กรณีที่ศาลพิพากษายกฟ้อง เป็นกรณีที่จำเลยไม่มีเจตนารู้เห็นกับการออกเอกสารสิทธิในที่ดิน 2 แปลงเนื้อที่ 11 ไร่และ 12 ไร่ แต่คดีบุกรุกยังคงเดินหน้าต่อ เพื่อให้ได้ที่ดินของรัฐกลับคืนมา
อ่านข่าว ยกฟ้อง! สุนทร-กนกวรรณ คดีบุกรุกป่าเขาใหญ่
ข้อมูลจากอธิบดีกรมอุทยานฯ ระบุว่า ที่ดินในบัญชีทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับคดีรุกป่าเขาใหญ่ มีทั้งหมด 7 แปลงในส่วนคดีที่ดินเนื้อที่ 11 ไร่ ขณะนี้อยู่ในชั้นอัยการสูงสุด
ส่วนคดีที่ดิน 12 ไร่ หยุดการสอบสวนในชั้นพนักงานสอบสวนเพราะไม่พบผู้กระทำผิด แต่สามารถรื้อฟื้นนำไปสู่การหาตัวผู้กระทำความผิดได้ ถือเป็นดุลพินิจของพนักงานสอบสวน ส่วนที่ดินอีก 5 แปลง ป.ป.ช.ชี้มูลว่า ออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ กรมอุทยานฯ ทำหนังสือไปที่กรมที่ดินขอให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ
อ่านข่าว
ไม่รอด! ปิดฉากการเมืองตลอดชีวิต "กนกวรรณ" รุกป่าเขาใหญ่