วันนี้ (28 ก.ย.2566) นางเพ็ญรวี มาแสง รองอธิบดีกรมบังคับคดี โฆษกกรมบังคับคดี กล่าวว่า ตามพ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2566 ที่มีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 20 มี.ค.2566 ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับภารกิจของกรมบังคับคดี เนื่องจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ที่ได้บังคับคดีกับทรัพย์สินของลูกหนี้ กยศ. ซึ่งมีจำนวน 46,458 คดี เป็นทุนทรัพย์ 6,680 ล้านบาท
ขณะนี้ กยศ.ได้มีหนังสือถึงกรมบังคับคดี เพื่อขอให้งดการขายทอดตลาดทรัพย์ในคดีที่ กยศ.ได้ยึดทรัพย์ไว้ทุกคดี
นางเพ็ญรวี กล่าวอีกว่า ทางกรมบังคับคดี ได้กำหนดเรื่องการช่วยเหลือและการให้โอกาสกับลูกหนี้ กยศ. เป็นเรื่องเร่งด่วน จึงได้แจ้งให้สำนักงานบังคับคดีทั่วประเทศดำเนินการให้เป็นแนวทางเดียวกัน
ทั้งนี้หาก กยศ.ได้แถลงงดการบังคับคดี โดยมิได้นำส่งหนังสือ แสดงความยินยอมของลูกหนี้ตามคำพิพากษา ตลอดจนผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีให้ เจ้าพนักงานบังคับคดีมีหมายแจ้งลูกหนี้ตามคำพิพากษา ตลอดจนผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีมาให้ความยินยอม ในการที่ กยศ. แถลงของดการบังคับคดีไว้ เพื่อให้เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ดังนั้นหากลูกหนี้ กยศ. ที่ได้รับหมายแจ้งจากเจ้าพนักงานบังคับคดีในการให้ความยินยอมในการงดการบังคับคดี หรืองดการขายทอดตลาด สามารถติดต่อสำนักงานบังคับคดีทุกแห่งทั่วประเทศในการให้ความยินยอมดังกล่าว
การดำเนินการดังกล่าว เป็นความร่วมมือระหว่าง กรมบังคับคดี และกยศ. เพื่อให้ลูกหนี้ กยศ. ได้มีโอกาสปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อให้สามารถผ่อนชำระหนี้ได้ และเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในการถูกบังคับคดี