หลังจากเกิดเหตุการณ์สลด เด็กอายุ14 ปี กราดยิงในห้างสรรพสินค้าชื่อดังเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 3 ต.ค.2566 ที่ผ่านมา เพจเข็นเด็กขึ้นภูเขา ได้แชร์ 10 ข้อที่พ่อแม่ควรทำเพื่อให้ลูกเติบโตอย่างมีความสุขและมีสุขภาพจิตดี มาดูว่ามีอะไรบ้าง
1.พ่อแม่จะยังรักและเคียงข้างลูกเสมอไม่เกี่ยวว่าลูกจะเรียนเก่งต้องน่ารัก แต่การรักลูกตรงนั้นไม่ได้หมายความว่าจะต้องตามใจลูกไปหมด พ่อแม่จะต้องบอกให้รู้ว่าอะไรที่ควรทำหรือไม่ควรทำ
2.พ่อแม่จะทำให้ลูกมองเห็นคุณค่า ภูมิใจในตัวเอง คนเราต้องมีข้อดีข้อเสีย ลูกก็ด้วย อย่างไรก็ตามพ่อแม่ก็รักและภูมิใจในตัวลูกอย่างที่ลูกเป็น ดังนั้นนอกจากพ่อแม่จะตักเตือนในจุดที่ลูกทำไม่ได้ พ่อแม่จะบอกให้ลูกรู้ว่าเขามีข้อดีอะไรบ้าง
อ่านข่าว : หมอเด็กแนะหยุดส่งต่อความเกลียดชัง หยุดพฤติกรรมเลียนแบบ
3.ในเวลาที่ลูกทำผิด พ่อแม่จะไม่โกรษจนขาดสติ จะถามลูกว่าเพราะอะไรถึงทำแบบนั้น และใจเย็นพอจะฟังลูก อย่างไรก็ตามถ้าลูกทำผิดจริงๆ พ่อแม่ก็ต้องทำโทษ เพราะต้องการให้ลูกเรียนรู้ผลของการกระทำ นั้นคือจุดเริ่มต้นของความรับผิดชอบต่อตัวเองและคนรอบข้าง
4.พ่อแม่จะทำให้ลูกเข้าใจว่าความผิดพลาดนั้นเกิดขึ้นได้เป็นธรรมดา ในวันที่ลูกทำผิดพลาด เสียใจได้ ร้องไห้ได้ แต่อย่าถอดใจยอมแพ้ ค่อยๆจัดการแก้ปัญหาปรับปรุงแก้ไข
5ถ้าใครทำสิ่งดีๆให้เรา เราควรรู้สึกขอบคุณ และถ้าเราทำผิดกับใครเราควรจะขอโทษเขาและรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ
6. เวลาลูกทำดีกับใคร อย่าหวังว่าทุกคนจะดีตอบเรา บางทีบางคนทีร้ายกับเราโลกก็เป็นแบบนั้น แต่มันก็เป็นประสบการณ์ชีวิต ทำให้เราเติบโตและได้เรียนมนุษย์ขอให้ลูกอย่าเสียกำลังใจ ภูมิใจในสิ่งที่เราทำสิ่งดีๆกับคนอื่น
7.อารมณ์ความรู้สึกเป็นเรื่องปกติ จะเป็นความรู้สึกบวกหรือลบก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือวิธีจัดการอารมณ์อย่างเหมาะสม เช่น โกรธได้แต่ต้องไม่ทำร้ายตัวเอง เสียใจแต่ทำร้ายตัวเองและคนอื่น)
8.ถ้าใครมากลั่นแกล้งหรือทำร้ายลูก ไม่ควรปล่อยหรือยินยอมให้เขาทำร้ายหรือทำให้เราเจ็บ มันเป็นสิทธิของเราที่จะดูแลป้องกันตัวเอง และขอให้ลูกบอกพ่อแม่ถ้ามีใครทำร้ายลูกตรงนี้ลูกขอความช่วยเหลือได้
9.ไม่จำเป็นต้องเรียนเก่งที่สุด แต่พ่อแม่อยากให้ลูกเรียนไปเรื่อยๆอย่างมีความสุข รับผิดชอบหน้าที่ตัวเอง มทักษะชีวิตที่ดี มีสุขภาพจิตที่ดี ดังนั้นพ่อแม่จะไม่กดดันลูกในเรื่องการเรียนจนทำให้ลูกเครียด
10.พ่อแม่จะเป็นเซฟโซนของลูก เวลาที่ลูกมีปัญหาไม่สบายใจ เครียด เหนื่อย ฯลฯ พ่อแม่อาจไม่ใช่ช่วยแก้ปัญหาทั้งหมดได้ แต่แน่ใจได้ว่าพ่อแม่พร้อมรับฟังเรื่องต่างๆระบายให้พ่อแม่ฟังได้ ที่สำคัญที่สุดคือ พ่อแม่จะอยู่ตรงนี้ในเวลาที่ลูกต้องการ
ในขณะที่ พญ.วิมลรัตน์ วันเพ็ญ ผอ.สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น กรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ รายละเอียดเกี่ยวกับเยาวชนผู้ก่อเหตุ ยังไม่สามารถทั้งสาเหตุแรงจูงใจหรือใดๆ ทั้งสิ้น ไม่อยากให้สังคมด่วนสรุป และตัดสิน แต่ที่แน่ใจเหตุการณ์ครั้งนี้มีความรุนแรงเกิดขึ้นแน่นอน ฉะนั้นสิ่งที่สังคมทำได้คือการไม่ส่งต่อความรุนแรง
ทั้งภาพและข้อความ ต่างๆเกี่ยวกับเหตุการณ์ครั้งนี้ เพื่อไม่ให้ เกิดความรุนแรง เกิด Hate speech (การใช้ถ้อยคำรุนแรงด่าทอ) หรือ การเลียนแบบพฤติกรรม เพราะจะยิ่งกระตุ้นอารมณ์ของคนในสังคมให้มากขึ้น ยิ่งแชร์ยิ่งส่งต่อ อารมรณ์ความรู้สึกแต่มากขึ้น สิ่งที่สังคมควรทำจากนี้ คือการแชร์และส่งต่อข้อความอย่างสร้างสรรค์ เช่น วิธีเอาตัวรอดจากเหตุความรุนแรง เพื่อสร้างความปลอดภัย และเป็นการส่งต่อความรู้ในการช่วยเหลือตนเอง และผู้อื่น มากกว่า ส่งต่อข้อมูลที่มีแต่ความเกลียดชัง
ที่มา:เพจเข็นเด็กขึ้นภูเขา