รักษาภาวะสมองเสื่อมโดยไม่ผ่าตัด แต่ใช้การกระตุ้นเซลล์ประสาทส่วนลึก

การวิจัยการกระตุ้นสมองด้วยการรบกวนชั่วคราว (TI) นำโดยนักวิจัยจากอิมพิเรียลคอลเลจลอนดอน (ICL) ใช้วิธีการส่งสนามไฟฟ้าความถี่สูงที่ไม่เป็นอันตราย 2 สนามเข้าไปกระตุ้นสมอง ตั้งค่าลำแสงไว้ที่ 2,000 เฮิรตซ์ และ 2,005 เฮิรตซ์ และบริเวณที่ลำแสงตัดกันจะสร้างกระแส 5 เฮิรตซ์ ซึ่งเป็นกระแสที่ 3 เป็นกระแสสำคัญที่จะถูกกระตุ้นในฮิปโปแคมปัส (hippocampus) แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อเนื้อเยื่อสมองในส่วนอื่น ๆ โดยการกระตุ้นด้วยกระแสไฟฟ้านักวิจัยคาดหวังให้เซลล์ประสาทที่เป็นโรคกลับมาทำงานอีกครั้ง และฟื้นฟูไมโทคอนเดรีย (mitochondrion) ที่ขับเคลื่อนเซลล์ ซึ่งได้รับความเสียหายจากโรคอัลไซเมอร์

เทคโนโลยีกระตุ้นเซลล์ประสาทที่มีความถี่สูงประสบความสำเร็จในการทดลองกับอาสาสมัคร 20 คน โดยกระตุ้นเซลล์ประสาทส่วนลึกหรือฮิปโปแคมปัส ที่มีหน้าที่สร้าง จัดระเบียบและเรียกคืนความทรงจำ จากการทดลองการรักษาแบบไม่รุกรานและไม่เจ็บปวดพบว่า เป็นวิธีที่มีศักยภาพในการปรับปรุงการสูญเสียความทรงจำอันเกิดจากโรคอัลไซเมอร์และภาวะสมองเสื่อมในรูปแบบอื่น ๆ ในผู้สูงอายุที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา

อาสาสมัคร 20 คนที่เข้ารับการทดลองจะถูกกระตุ้นสมองด้วยการรบกวนชั่วคราว โดยในระหว่างการรักษา อาสาสมัครจะต้องจดจำใบหน้ากับชื่อคู่กัน ซึ่งเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยฮิปโปแคมปัสเป็นอย่างมาก นักวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าการกระตุ้นสมองด้วยการรบกวนชั่วคราวคัดเลือกผลกระทบต่อกิจกรรมฮิปโปแคมปัสที่เกิดจากงานหน่วยความจำโดยใช้การถ่ายภาพด้วยคลื่นสนามแม่เหล็กเชิงฟังก์ชัน (fMRI) และนักวิจัยได้ทำซ้ำขั้นตอนนี้อีกเป็นเวลา 30 นาที ซึ่งผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่าการกระตุ้นสมองด้วยการรบกวนชั่วคราว ทำให้ความแม่นยำของหน่วยความทรงจำดีขึ้น

ในปัจจุบันการกระตุ้นโครงสร้างส่วนลึกภายในสมองด้วยไฟฟ้า เราจำเป็นต้องผ่าตัดปลูกฝังอิเล็กโทรด ซึ่งแน่นอนว่ามีความเสี่ยงต่อผู้ป่วย และอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนได้ งานวิจัยชิ้นนี้แสดงให้เห็นว่าเทคนิคการกระตุ้นสมองด้วยการรบกวนชั่วคราว ที่จะกระตุ้นบริเวณเฉพาะที่อยู่ลึกเข้าไปในสมองของมนุษย์จากระยะไกลโดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด เป็นการเปิดช่องทางใหม่ในการรักษาโรคทางสมอง เช่น โรคอัลไซเมอร์ ซึ่งส่งผลต่อโครงสร้างสมองส่วนลึกได้

ที่มาข้อมูล: newatlas, imperial, independent
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech