สื่อเกาหลีใต้รายงานว่า นายฮัน ดง ฮุน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมของเกาหลีใต้ ประกาศจัดการปัญหาลักลอบเข้าเมือง อย่างผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด ตั้งแต่เมื่อช่วงเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา และมาตรการดังกล่าวจะดำเนินต่อไปจนถึงวันที่ 9 ธ.ค.2566 นี้
เพราะเป้าหมายของเกาหลีใต้อยู่ที่การควบคุมจำนวนผู้ลักลอบเข้าเมืองเพื่อมาทำงานอย่างผิดกฎหมายในประเทศ ได้ออกมาตรการให้ผู้ทำงานผิดกฎหมาย สมัครใจไปรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ เพื่อให้ส่งกลับประเทศต้นทาง โดยจะไม่ต้องรับโทษตามกฎหมายเกาหลีใต้ และไม่ต้องขึ้นบัญชีดำ ในการเข้าประเทศเกาหลีใต้แต่อย่างใด
สอดคล้องกับปลัดกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ ระบุว่า เกาหลีใต้ไม่ได้มีนโยบายปฎิเสธนักท่องเที่ยวใจ อาจจะเป็นพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ ตม.เกาหลีใต้บางคนเท่านั้น หลังจากเกิดกระแส #แบนเที่ยวเกาหลีใต้
ไทยเพิ่ม 1 หมื่นอัตรา ส่งแรงงานทำงานเกาหลีใต้
ปัญหานี้ลุกลามกระทบความสัมพันธ์ทั้ง 2 ประเทศ นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงานระบุว่าปัจจุบันจำนวนแรงงานไทยที่ไปทำงานผิดกฎหมายที่เกาหลีใต้ หรือ ผีน้อย มีแนวโน้มที่ลดลง
แต่ยังมากเป็นอันดับ 1 อยู่ที่ประมาณ 100,000 กว่าคน สาเหตุมาจากมาตรการผลักดันแรงงานผิดกฎหมาย กลับไทย และการสกัดการเข้าประเทศ ของแรงงานลักลอบผ่านการคัดกรอง K-ETA (เค-อีทีเอ)
ระบบคัดกรองคนเข้าประเทศเกาหลีใต้แบบออนไลน์ และการคัดกรองที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ในสนามบินของเกาหลีใต้มีความเข้มงวดมากขึ้น ประชาชนที่มาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มักถูกสกัดกั้นมากที่สุด เนื่องจากมีข้อมูลการลักลอบเข้าไปเป็น ผีน้อย จำนวนมาก
แต่ขณะนี้กระทรวงแรงงาน ได้ร่วมมือกับเกาหลีใต้ เตรียมส่งแรงงานไปทำงานภาคการเกษตรเกือบ 10,000 อัตรา ในโครงการ VISA E8 ซึ่งแรงงานกลุ่มนี้ ไม่จำเป็นต้องผ่านการทดสอบภาษา โดยในอนาคตเตรียมหารือกับเกาหลีใต้ ในการขยายจำนวนการ ส่งแรงงานไทย ไปทำงานถูกกฎหมายให้มากขึ้น ในตำแหน่งงานต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาการลักลอบไปทำงานผิดกฎหมาย
ส่วนแรงงานไทยถูกกฎหมาย มี 18,962 คน เป็นแรงงานจากภาคอีสาน และภาคเหนือมากที่สุด ส่วนใหญ่ไปทำงานภาคอุตสาหกรรม ภาคการเกษตร และงานก่อสร้าง ที่ผ่านมา การส่งแรงงานถูกกฎหมาย มีข้อจำกัดในเรื่องของการต้องทดสอบภาษาเกาหลีผ่านเกณฑ์ ทำให้แรงงานเลือก ลักลอบไปทำงาน
อ่านข่าวเพิ่ม : เคลียร์ให้ชัด "Soft Power" จากต้นตำรับเกาหลีคืออะไร